ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการใช้ WiFi ในปัจจุบันกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของมนุษย์เราที่ขาดไม่ได้ไปแล้ว เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี อุปกรณ์ต่างๆ ก็ถูกพัฒนาไปตามยุคตามสมัย ไม่ว่าจะใช้สำหรับด้านการเรียนการสอน ด้านการทำงาน และการใช้ชีวิตประจำวัน

เราจะเห็นได้ว่าแทบจะทุกบ้านที่มีการติดตั้งเราเตอร์ (Router) ใช้งานไวไฟ ในการช่วยอำนวยความสะดวกเพื่อการติดต่อสื่อสาร และเพิ่มความบันเทิงในการท่องโลกอินเตอร์เน็ต ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้กับหลายๆ อุปกรณ์พร้อมกัน แต่อาจจะทำให้การใช้งานช้าลง หากเชื่อมต่อกับหลายๆ อุปกรณ์มากเกินไป ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำ ตัวขยายสัญญาณ WiFi ที่จะช่วยเพิ่มความเร็วแรงให้กับการใช้งาน Wifi ของคุณให้ดีมากยิ่งขึ้น ไปดูกันเลย | เรียบเรียงข้อมูลโดย pro4289.com

ตัวขยายสัญญาณ Wifi คืออะไร

ตัวขยายสัญญาณ Wifi หรือที่เรียกกันว่า ตัวกระจายสัญญาณ WiFi เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาให้ใช้งานคู่กับเราเตอร์อินเทอร์เน็ตบ้าน เพื่อช่วยส่งเสริมการกระจายสัญญาณไวไฟให้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ส่วนไหนของบ้าน ก็จะสามารถใช้งานไวไฟได้แบบเสถียร เร็วแรง หมดปัญหาเรื่องสัญญาณขาดๆ หายๆ หรือสัญญาณไปไม่ถึงจุดที่คุณอยู่ โดยไม่ต้องลากสายแลนให้ยุ่งยาก

สำหรับตัวขยายสัญญาณไวไฟ จะแบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆ ตามรูปแบบของการทำงาน คือ

  • Wi-Fi Repeater เป็นเครื่องที่จะช่วยย้ำสัญญาณไวไฟ และช่วยแก้ปัญหาไวไฟที่มีสัญญาณอ่อน
  • Wi-Fi Extender เป็นเครื่องช่วยในการขยายสัญญาณ wifi หรือกระจายสัญญาณไวไฟ เพื่อให้สามารถครอบคลุมพื้นที่ในการใช้งานให้ได้มากที่สุด และยังช่วยลดปัญหามุมอับของสัญญาณอีกด้วย

วิธีการเลือกตัวขยายสัญญาณ WiFi

1. เลือกจากคลื่นความถี่ในการรับส่งข้อมูล

ตัวขยายสัญญาณ WiFi จะใช้คลื่นความถี่รองรับและเพิ่มความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล ความเร็วของการใช้งานจะขึ้นอยู่กับระยะทาง รวมไปถึงจำนวนของอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อด้วย โดยมาตรฐานคลื่นความถี่ของไวไฟในปัจจุบันมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ คือ 2.4GHz และ 5GHz

  • คลื่นความถี่ 2.4GHz

เป็นคลื่นความถี่ที่ใช้กันโดยทั่วไป รองรับความเร็วได้สูงสุดถึง 300 – 600 Mbps สามารถส่งสัญญาณไปได้ระยะไกลและทะลุสิ่งกีดขวางได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปภายในบ้านที่มีอุปกรณ์เชื่อมต่อน้อย หรือต้องการให้สัญญาณครอบคลุมกว้างมากขึ้น

  • คลื่นความถี่ 5GHz

เป็นคลื่นความถี่ที่ถูกพัฒนาขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากการใช้คลื่นความถี่ 2.4GHz โดยที่คลื่นความถี่ 5GHz จะสามารถรองรับความเร็วสูงสุดได้ถึง 1,200 – 1,300 Mbps ช่วยให้รับส่งข้อมูลได้เยอะและรวดเร็วกว่าเดิม แต่มีข้อเสียคือ ช่วงความถี่ของคลื่นสัญญาณจะสั้นและความกว้างในการกระจายสัญญาณจะน้อยกว่าคลื่นความถี่ 2.4GHz และหากมีสิ่งกีดขวางอย่างกำแพงกั้นอยู่ด้วย ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพลดลง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องรับส่งข้อมูลจำนวนมากอย่างเช่นการดูหนังหรือเล่นเกม เป็นต้น

2. เลือกจากเสาสัญญาณ

ตัวขยายสัญญาณ WiFi นอกจากจะช่วยเพิ่มการขยายสัญญาณและความกว้างในการใช้งานที่ครอบคลุมโดยรอบของบริเวณบ้านแล้ว เสาสัญญาณก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสัญญาณได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปริมาณเสาสัญญาณที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อทราฟฟิคในการโอนถ่ายข้อมูลให้ทำได้อย่างราบรื่นรวดเร็วมากขึ้นไปอีก เพราะการรับส่งสัญญาณผ่าน Wifi เป็นการสื่อสารแบบ 1 ต่อ 1 โดยสลับการใช้งานระหว่างการรับส่งข้อมูลอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการมีเสาสัญญาณที่มากกว่า 1 เสา ก็จะช่วยให้การรับส่งข้อมูลนั้นเกิดขึ้นได้ในเวลาเดียวกันโดยไม่ต้องเสียเวลาสลับเสาสัญญาณไปมา

3. เลือกจากฟังก์ชันเสริมของตัวขยายสัญญาณ Wifi

ตัวขยายสัญญาณ wifi หรือ เครื่องกระจายสัญญาณไวไฟ บางรุ่นบางยี่ห้อจะมีฟังก์ชันเสริมที่เพิ่มเข้ามา เพื่อเสริมการรับส่งสัญญาณให้ดียิ่งขึ้น อย่างเช่น

  • ช่องเสียบสาย LAN หรือพอร์ต Ethernet ที่มีมากกว่า 1 ช่อง สำหรับในกรณีที่อยากเชื่อมต่อไวไฟเข้ากับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ททีวี หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่สามารถเชื่อมต่อได้โดยการเสียบผ่านสายแลน ซึ่งสายแลนจะช่วยทำให้สัญญาณไวไฟมีความเสถียรต่อการใช้งานได้มากกว่าเดิม
  • Beamforming หรือการกรองเชิงพื้นที่เป็นเทคนิคในการประมวลผลสัญญาณที่ใช้สำหรับการส่งหรือรับสัญญาณทิศทาง เป็นเทคโนโลยีที่เสริมเข้ามาเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสัญญาณ และช่วยลดปัญหาจุดอับของสัญญาณ ทั้งยังช่วยเพิ่มรัศมีทิศทางในการส่งสัญญาณไวไฟให้กว้างขึ้น ครอบคลุมได้ทุกพื้นที่ในบริเวณบ้าน อาคาร หรือที่พักอาศัยให้ใช้งาน wifi ได้อย่างทั่วถึง
  • MU-MIMO (Multi-user Multiple Input Multiple Output) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเสริมความเสถียรภาพให้ระดับความเร็วในการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ช่วยให้ตัวขยายสัญญาณ Wifi สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้หลากหลายอุปกรณ์ เพื่อใช้งานพร้อมๆ กันได้อย่างเสถียรและไม่มีการสะดุด

ประโยชน์ของตัวขยายสัญญาณ Wifi

ตัวขยายสัญญาณ Wifi มีประโยชน์ในการช่วยขยายพื้นที่ในการใช้งาน wifi ให้มีขอบเขตที่กว้างขึ้นได้ในระดับหนึ่ง ด้วยการรับสัญญาณไวไฟจากจุดปล่อยหนึ่ง จากนั้นก็จะทำการส่งและกระจายสัญญาณให้สามารถใช้งานบริเวณที่กว้างขึ้นได้ เพื่อให้ครอบคลุมได้ทั้งบ้านและอาคาร หรือรวมไปถึงพื้นที่บริเวณลานบ้านโดยรอบ นอกจากนั้นเครื่องขยายสัญญาณไวไฟ ยังเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยจัดการกับปัญหาในเรื่องของมุมอับสัญญาณต่างๆ ภายในที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดี

10 อันดับ ตัวขยายสัญญาณWifi ยี่ห้อไหนดี 2024


1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
TP-Link WiFi Repeater | รุ่น 205RE
Zyxel | รุ่น NWA55AXE
Mercusys WiFi Range Extender | รุ่น 300RE
Wavlink อุปกรณ์ขยายสัญญาณไวไฟ | รุ่น AC1200
TP-Link | รุ่น RE705X AX3000
Xiaomi Wifi Amplifier Pro
TP-Link WiFi Repeater | รุ่น 850RE
Comfast WiFi Repeater | รุ่น 755AC
Mercusys | รุ่น ME30 AC1200
PIXLINK ตัวขยายสัญญาณ | รุ่น WR09
ลักษณะการจ่ายไฟ แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบไร้สาย แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง แบบปลั๊กไฟติดกับเครื่อง
คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz, 5GHz 2.4GHz, 5GHz 2.4GHz 2.4GHz, 5GHz 2.4GHz 2.4GHz 2.4~2.4835GHz 2.4GHz, 5GHz 2.4GHz, 5GHz 2.4 GHz
ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 750 Mbps 1.8 Gbps 300 Mbps 1,200 Mbps 2,402 Mbps 300 Mbps 300 Mbps 1,200 Mbps 1.2 Gbps 1,200 Mbps
รองรับ Dual-band
มีพอร์ต LAN
รับประกันสินค้า ตลอดอายุการใช้งาน 3 ปี 1 ปี 1 ปี 1 ปี ตลอดอายุการใช้งาน 1 ปี 14 วัน
ราคาเริ่มต้นที่ 990 บาท 6,990 บาท 359 บาท 2,132 บาท 3,590 บาท 299 บาท 459 บาท 599 บาท 599 บาท 319 บาท
เช็คราคาล่าสุด

1. TP-Link WiFi Repeater รุ่น 205RE

  • มีเสารับส่งสัญญาณจำนวน 2 เสา

  • มีช่อง LAN 1 ช่อง แบบ 10/100 Mbps

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz และ 5GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 750 Mbps

  • ช่วยขยายสัญญาณ Wi-Fi ให้รองรับพื้นที่มากขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น

  • รองรับโหมดการทำงาน Range Extender Mode และ AP Mode

  • ตั้งค่าเพียงกดปุ่ม Range Extender และ ปุ่ม WPS บน Router

  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Wireless ทุกรุ่น บนเทคโนโลยี 802.11 b/g/n/ac

2. Zyxel Outdoor Access Point WiFi 6 AX1800 IP55 รุ่น NWA55AXE

  • มีเสารับส่งสัญญาณแบบ Dual 2×2 MU-MIMO

  • ความเร็วสูงสุด 1.77 Gbps มาพร้อมกับเทคในโลยี ODFMA

  • เทคโนโลยี Zyxel Smart Mesh สามารถส่งสัญญาณไร้สายจากอาคารหนึ่งข้ามไปยังอาคารอื่นได้

  • เสากระจายสัญญาณภายนอกที่กระจายสัญญาณได้ไกล

  • สามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อการใช้งานที่เหมาะสม

  • ออกแบบมาสำหรับใช้งานภายนอกอาคาร ติดตั้งกลางแจ้ง ทนแดดและฝน

  • ผ่านการทดสอบและรับรองมาตราฐาน IP55 ในการกันน้ำของตัวอุปกรณ์

3. Mercusys WiFi Range Extender รุ่น 300RE

  • มีเสาอากาศภายนอก 3 เสา

  • มาพร้อมกับเทคโนโลยี MIMO

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 300 Mbps

  • ใช้งานโดยการเสียบปลั๊กในพื้นที่ๆ สัญญาณ Wi-Fi ไปไม่ถึง

  • ใช้งานเพียงกดปุ่มที่อุปกรณ์และปุ่ม WPS ที่เราเตอร์

  • เปลี่ยนจุดติดตั้งง่าย เพราะมีขนาดเล็ก

  • มีไฟ LED บอกสัญญาณของตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสม

4. Wavlink อุปกรณ์ขยายสัญญาณไวไฟ รุ่น AC1200

  • มีเสาอากาศภายนอก 4 เสา

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz และ 5GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 1,200 Mbps

  • การเชื่อมต่อ RJ 45 แบบทนแดดและฝน

  • รองรับ power over ethernet (PoE)

  • โหมดการทำงาน เราเตอร์, Repeater, AP และ WISP

  • รักษาความปลอดภัยด้วย 802.1 X, WAP และ WPA2

  • สร้างขึ้นใน lightening arrestor (15kv ESD)

  • ระยะทางกลางแจ้ง 500 เมตร และระยะทางในร่ม 150 เมตร

5. TP-Link รุ่น RE705X AX3000 Mesh WiFi 6 Range Extender

  • มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุดอย่างเทคโนโลยี Wi-Fi 6

  • รองรับคลื่นความถี่ 5 GHz (2402 Mbps) และ 2.4 GHz (574 Mbps)

  • มอบความเร็วที่มากกว่า แรงกว่า และเสถียรมากขึ้น

  • มีไฟสัญญาณที่ช่วยให้ค้นหาที่ตั้งสัญญาณ Wi-Fi ที่ครอบคลุมได้ดีที่สุด

  • ง่ายต่อการจัดการอุปกรณ์บนสมาร์ทโฟนผ่าน Tether APP

  • ขยายช่วงสัญญาณของเราเตอร์ Wi-Fi หรือ ไวเลส access point

6. Xiaomi Wifi Amplifier Pro

  • มีเสาสัญญาณ Antenna แบบคู่ ครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 300 Mbps

  • ติดตั้งได้ง่ายๆ โดยการเสียบปลั๊ก

  • รองรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อพร้อมกันสูงสุดถึง 64 อุปกรณ์

  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Wireless ทุกรุ่น บนเทคโนโลยี IEEE802.11 a/b/g/n

  • สามารถทำงานร่วมกับ Xiaomi WiFi Amplifier Pro ได้หลายเครื่อง

7. TP-Link WiFi Repeater รุ่น 850RE

  • มีเสาอากาศภายนอก 2 เสา

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4~2.4835GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 300 Mbps

  • ตั้งค่าง่ายๆ เพียงกดปุ่ม Range Extender และ ปุ่ม WPS บน Router

  • สามารถใช้อุปกรณ์มือถือในการเปิด-ปิด ไฟ LED ได้

  • มีโหมดกลางคืนเพื่อควบคุมการเปิด-ปิด LED ไฟแสดงสถานะ

  • สามารถปรับเปลี่ยนจุดติดตั้งหรือเคลื่อนย้ายได้ตามต้องการ

8. Comfast WiFi Repeater รุ่น 755AC

  • มีเสาอากาศภายนอก 2 เสา

  • มีช่อง LAN 1 ช่อง แบบ 10/100Mbps

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz และ 5GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 1,200 Mbps

  • รองรับการเชื่อมต่อกับ Wi-Fi 802.11AC, 802.11 a/b/g/n

  • รองรับเราเตอร์ repeater และสำหรับโหมด AP

  • รองรับโหมดมัลติฟังก์ชั่นเพื่อตอบสนองทุกความต้องการได้อย่างง่ายดาย

9. Mercusys รุ่น ME30 AC1200 Wi-Fi Range Extender

  • มาตรฐานไร้สาย IEEE 802.11a/n/ac 5 GHz, IEEE 802.11b/g/n 2.4 GHz

  • รองรับคลื่นความถี่: 2.4 – 2.5 GHz และ 5 GHz

  • อัตราสัญญาณ: สูงสุด 1200 Mbps (867 Mbps บน 5 GHz, 300 Mbps บน 2.4 GHz)

  • ช่วยขยายสัญญาณไวไฟไปยังบริเวณที่เป็นจุดอับสัญญาณ

  • มาพร้อมความเร็ว Wireless รวมสูงสุดถึง 1.2 Gbps

  • ตั้งค่าขยายสัญญาณง่ายๆแค่กดปุ่ม WPS ภายในไม่กี่วินาที

  • มีไฟสัญญาณ LED ช่วยให้หาจุดติดตั้งตัวขยายสัญญาณที่ดีที่สุด

  • ใช้งานเชื่อมต่อแบบมีสายสำหรับ PCs, IPTVs, และ game consoles

10. PIXLINK ตัวขยายสัญญาณ รุ่น WR09

  • มีเสาอากาศภายนอก 4 เสา

  • คลื่นความถี่ที่รองรับ 2.4GHz

  • ความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูล 1,200 Mbps

  • ระยะทางกลางแจ้ง 50 เมตร และระยะทางในร่ม 30 เมตร

  • มีช่อง LAN 1 ช่อง แบบ 10/100 Mbps

  • รักษาความปลอดภัยแบบไร้สายด้วย 802.1 X, WAP และ WPA2