- นาฬิกาวัดความดัน Pure Health Life HR5
- นาฬิกาวัดความดัน Aolon GT5 Pro
- นาฬิกาวัดความดัน HCare Wise2
- นาฬิกาวัดความดัน Zeblaze VIBE 8
- นาฬิกาวัดความดัน Pure Health Life HR5s
- นาฬิกาวัดความดัน Hcare Wise3
- นาฬิกาวัดความดัน Aolon Foom Lite
- นาฬิกาวัดความดัน HCare Go5
- นาฬิกาวัดความดัน Huawei Watch D2
- นาฬิกาวัดความดัน Seamwi Smart Watch
นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน (Blood Pressure Monitor) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการวัดความดันโลหิตในร่างกายของมนุษย์ ซึ่งประกอบด้วยสองค่าหลัก ๆ คือความดันโลหิตส่วนบน (Systolic Blood Pressure) และความดันโลหิตส่วนล่าง (Diastolic Blood Pressure)
การวัดความดันโลหิตมีความสำคัญในการประเมินสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือดของบุคคล ค่าความดันโลหิตสูง หรือต่ำอาจเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับภาวะสุขภาพที่ควรตรวจสอบ หรือปรับปรุง เช่น ความดันโลหิตสูง อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และหลอดเลือด ในขณะที่ความดันโลหิตต่ำ อาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น การแข็งตัวของหลอดเลือด หรือภาวะขาดน้ำ
ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้ในบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อทำการตรวจวัดความดันโลหิตในบุคคลเอง แต่หากมีค่าความดันโลหิตที่สูง หรือผิดปกติ ควรพบแพทย์เพื่อการประเมิน และการรักษาเพิ่มเติม | จัดอันดับโดยเว็บ pro4289.com
10 อันดับ นาฬิกาวัดความดัน ยี่ห้อไหนดี 2025
นาฬิกาวัดความดัน Pure Health Life HR5
- วัดความดันและน้ำตาลในเลือด ระบบเซ็นเซอร์ PPG
- ฟังก์ชั่นนับก้าว, นับระยะทาง, นับแคลอรี่ ฯลฯ
- ฟังก์ชั่นการโทรช่วยเหลือฉุกเฉิน SOS
- หน้าปัดนาฬิกาสำเร็จรูปกว่า 100 แบบ
- แจ้งเตือนสายเข้า และแจ้งเตือนข้อความโซเชียล
- หน้จอ AMOLED 1.43 นิ้ว ระบบสัมผัส Full Touch Screen
- แบตเตอรี่ความจุขนาด 380 mAh ใช้งานทั่วไปได้ 5-7 วัน
- มาตรฐานการกันน้ำ IP68 แต่ไม่ควรใส่แช่น้ำเกิน 30 นาที
นาฬิกาวัดความดัน Aolon GT5 Pro
- หน้าจอใหญ่ 1.6 นิ้ว ความละเอียดสูง 360x360 พิกเซล
- พร้อมกระจก King Panda แข็งแรงทนรอยขีดข่วน
- รองรับโหมดกีฬามากกว่า 100 รูปแบบ
- บันทึกก้าว ระยะทาง แคลอรี่ และฟังก์ชันฝึกหายใจหลังออกกำลังกาย
- เชื่อมต่อบลูทูธสำหรับโทร รับสายเรียกเข้า ข้อความ และแอปโซเชียลยอดนิยม
- แบตเตอรี่ 340mAh ใช้งานได้นาน 7-10 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- วัดสุขภาพครบถ้วน ทั้งอัตราการเต้นหัวใจแบบเรียลไทม์ ออกซิเจนในเลือด น้ำตาลในเลือด อุณหภูมิร่างกาย และการนอนหลับ
นาฬิกาวัดความดัน HCare Wise2
- หน้าจอ IPS HD Full Touch ขนาด 1.92 นิ้ว ความละเอียด 360x360 คมชัด
- รองรับการตรวจวัด ECG ความดันโลหิต การนอนหลับ และโหมดออกกำลังกาย
- รับแจ้งเตือนสายเรียกเข้า ข้อความ และโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ
- เปลี่ยนธีมหน้าปัดได้กว่า 14 แบบ และสามารถตั้งรูปภาพส่วนตัวได้
- แบตเตอรี่ 220mAh ชาร์จเพียง 1 ชั่วโมง ใช้งานต่อเนื่อง 3-7 วัน
- ตัวเรือน Alloy + PC/ABS และสายซิลิโคน ใส่สบาย รองรับ Bluetooth 5.1
นาฬิกาวัดความดัน Zeblaze VIBE 8
- หน้าจอ AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว ความละเอียดสูง 466x466 พิกเซล
- ความสว่างสูงสุด 1000 nit รองรับ Always-on Display
- วัสดุตัวเรือนและกรอบสแตนเลสสตีล แข็งแรงทนทาน
- เชื่อมต่อบลูทูธ 5.3 รับสาย-โทรออก ผู้ช่วยเสียง และการแจ้งเตือนจากแอปต่างๆ
- ตรวจวัดสุขภาพครบถ้วน ทั้งอัตราการเต้นหัวใจ SpO2 ความดันโลหิต การหายใจ คุณภาพการนอน และสุขภาพผู้หญิง
- รองรับโหมดกีฬาหลากหลาย พร้อมบันทึกก้าว ระยะทาง แคลอรี่ และเป้าหมายกิจกรรมแบบเรียลไทม์
- แบตเตอรี่ 500mAh ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน ชาร์จเต็มใน 1.5 ชั่วโมง
- พร้อมฟังก์ชันอัจฉริยะควบคุมเพลง กล้อง สภาพอากาศ และปฏิทิน

นาฬิกาวัดความดัน Pure Health Life HR5s
- เซ็นเซอร์ PPG ตรวจวัดความดันโลหิตและน้ำตาลในเลือด
- ตรวจวัดกรดยูริค และองค์ประกอบของเลือด
- ตรวจวัดไขมันดี-ไขมันเลว พร้อมวัดมวลกล้ามเนื้อได้
- ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ECG , วัดออกซิเจนในเลือด
- ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และตรวจวัดชีพจร
- ติดตามการนอนหลับแบบละเอียดและประเมินคุณภาพการนอน
- มาพร้อมโหมดออกกำลังกายที่ครบครันมากถึง 150+ ชนิดกีฬา

นาฬิกาวัดความดัน Hcare Wise3
- ตัวเรือนขนาด 42 x 52 x 15 มม. น้ำหนัก 95 กรัม
- วัสดุตัวเรือน Alloy(ส่วนบน) และ PC+ABS(ส่วนล่าง)
- สายนาฬิกาซิลิโคน ความกว้าง 22 มม. ยาว 210 มม.
- หน้าจอ IPS HD Full Touch Screen 2.06 นิ้ว
- ความละเอียด 410 x 502 พิกเซล คมชัด สู้แสงแดดได้
- แบตเตอรี่ Polymer Lithium ความจุ 530mAh
- แจ้งเตือนข้อความ สายโทรเข้า และแจ้งเตือน Social Network
- ตรวจสอบคุณภาพการนอน , นับจำนวนก้าวเดิน , ระยะทาง
- พร้อมติดตามและตรวจวัดผลด้านสุขภาพที่ครอบคลุมรอบด้าน

นาฬิกาวัดความดัน Aolon Foom Lite
- มาพร้อมกับชิปบลูทูธคู่ เพื่อรองรับการโทรออกและรับสาย
- บันทึกระยะทางการเดิน จำนวนก้าว และจำนวนแคลอรี่ได้
- มีโหมดกีฬา 24 โหมด เหมาะสำหรับการเดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน และกีฬาอื่นๆ
- ฟังก์ชั่นติดตามสุขภาพต่างๆ เช่น วัดการหายใจ , ตรวจจับความดันโลหิต , ตรวจจับออกซิเจนในเลือด , ติดตามการนอนหลับ
- แบตเตอรี่ในตัว ความจุ 230mAh ใช้พลังงานต่ำ
- เวลาสแตนด์บาย 7 - 10 วัน และเวลาใช้งาน 3 - 5 วัน
- มาพร้อมโหมดห้ามรบกวน และมีระบบสั่งงานด้วยเสียงได้
นาฬิกาวัดความดัน HCare Go5
- มาพร้อมเซนเซอร์ PPG 4 จุด ทำงานคู่กับ Al อัจฉริยะ
- โทรออก-รับสายผ่านนาฬิกาได้เลย ไม่ต้องใส่ซิม
- สามารถเช็คความดันโลหิต สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำ
- ตรวจจับชีพจร และการเต้นหัวใจ หากผิดปกติจะแจ้งเตือนทันที
- โปรแกรมโหมดสำหรับออกกำลังกายมากถึง 100 ชนิดกีฬา
- ฟังก์ชั่นตรวจจับ นับก้าว , แคลอรี่ และระยะทาง ได้ตลอดทั้งวัน
- หน้าจอ Full touch screen ขนาด 2.01 นิ้ว สีสด คมชัด

นาฬิกาวัดความดัน Huawei Watch D2
- ตัวเรือน (ยาว x กว้าง x สูง) : 48 x 38 x 13.3 มม.
- หน้าจอสี AMOLED 1.82 นิ้ว รองรับระบบสัมผัสเต็มหน้าจอ
- ความละเอียด 408 x 480 พิกเซล , PPI 347
- มาพร้อมปุ่มเม็ดมะยมหมุนได้ และปุ่มฟังก์ชั่น
- สามารถตรวจวัดความดันโลหิต และติดตามด้านสุขภาพอื่นๆ
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 8.0 และ iOS 13.0 ขึ้นไป
นาฬิกาวัดความดัน Seamwi Smart Watch
- หน้าจอสีแบบสัมผัส ขนาด 1.28 นิ้ว ความละเอียด 240x240p
- รองรับ Bluetooth 5.0 ใช้งานได้ทั้ง Android 5.0 และ iOS 9.0 ขึ้นไป
- กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP67 สวมใส่ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมประจำวันได้
- วัดอัตราการเต้นหัวใจ ความดัน และติดตามการออกกำลังกาย
- แบตเตอรี่ 200mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ 7-10 วัน และสแตนด์บายสูงสุด 20 วัน
นาฬิกาวัดความดัน ยี่ห้อดัง ยอดนิยม
Maimeite Official
นาฬิกาวัดความดัน ยอดนิยม *ขายดี* - ประจำเดือน
ประวัติความเป็นมาของนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน
ประวัติความเป็นมาของนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน เริ่มต้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีการพัฒนาและปรับปรุงต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้ นี่คือประวัติความเป็นมาของนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน ในแบบสรุป:
- ปี 1881: ดร. Samuel Siegfried Ritter von Basch จากออสเตรีย ประดิษฐ์โพรปไซท์เมตเตอร์แรก เครื่องมือนี้สามารถวัดความดันโลหิตในหลอดเลือดได้ โดยต้องประสานไปกับหลอดยาวๆ เพื่อบีบและปล่อยโพรปไซท์ในหลอดเลือดเพื่อวัดความดัน
- ปี 1896: เชิงวิชาการชาวอังกฤษที่ชื่อ Richard Burton Hatton และภาคีแพทย์ชาวอเมริกันที่ชื่อ Scipione Riva-Rocci ได้พัฒนาการวัดความดันโลหิต โดยใช้แขนเป็นตัววัด แนวคิดนี้เป็นการประเมินความดัน โดยใช้เสื้อผ้าสามารถทำให้สามารถวัดได้แบบไม่ต้องใช้ยางยืด
- ปี 1905: ดร. Nikolai Korotkoff ชาวรัสเซีย พัฒนาวิธีการใช้เครื่องฟังหูในการตรวจวัดความดันโลหิต เครื่องฟังหู ถูกนำมาใช้ในการฟังเสียงที่เกิดขึ้นในหลอดเลือด ขณะที่โลหิตถูกบีบ และปล่อยในระหว่างกระแสโลหิต
- ปี 1921: เครื่องมือแรกที่เรียกว่า “sphygmomanometer” ได้ถูกพัฒนาโดย ดร. Samuel Siegfried Ritter von Basch ที่มีวิธีการวัดความดันโลหิตแบบอัตโนมัติ โดยใช้การส่งลมเข้าไปในตัวเครื่องเพื่อบีบ และปล่อยในหลอดเลือด เมื่อเสียงของการไหลของโลหิตผ่านหลอดเลือดเปลี่ยนแปลง
- ปี 1967: นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ Yutaka Yamada พัฒนาเครื่องวัดความดันแบบอัตโนมัติในรูปแบบแมนูเอล (manual) ที่ทำให้ง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น
- ปี 1970s: เมื่อเทคโนโลยีดิจิตอลเริ่มพัฒนา นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน เริ่มถูกพัฒนาในรูปแบบอัตโนมัติ และใช้แผงวงจรดิจิตอลในการแสดงผล
- ปี 1990s ถึงปัจจุบัน: การพัฒนาทางเทคโนโลยีทำให้นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน แบบอัตโนมัติ มีการบูรณาการกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth เพื่อนำข้อมูลความดันไปสู่อุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์
นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความสำคัญในการตรวจวัดสุขภาพของผู้คน และการพัฒนาตลอดกาล ได้ช่วยให้การวัดความดันโลหิตเป็นเรื่องง่าย และทันสมัยขึ้น
วิธีเลือกซื้อนาฬิกาวัดความดัน
การเลือกซื้อนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน เป็นสิ่งสำคัญเพื่อดูแลสุขภาพของคุณ ดังนั้นคุณควรพิจารณาหลายๆ ด้านเพื่อให้ได้นาฬิกาที่เหมาะสมกับความต้องการ และสไตล์ชีวิตของคุณ นี่คือบางปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกซื้อนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน :
- ประเภทของนาฬิกา: มีแบบแมนูเอล (manual) และแบบอัตโนมัติ (automatic) แมนูเอลต้องมีการปรับความดันด้วยตนเอง แต่แบบอัตโนมัติจะวัดความดันอัตโนมัติ คุณควรเลือกตามความสะดวกของคุณว่าต้องการประเภทไหน
- ความถูกต้องและเชื่อถือได้: ควรมีความถูกต้องในการวัด คุณควรเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และได้รับการรับรองจากองค์กร หรือสภาทางการแพทย์
- ความสะดวกในการใช้งาน: เลือกนาฬิกาที่ใช้งานง่าย มีหน้าจอแสดงผลที่ใหญ่พอ สำหรับอ่านค่าความดันโลหิตได้ง่าย
- ขนาดและน้ำหนัก: เลือกนาฬิกาที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของข้อมือของคุณ และน้ำหนักที่เบาพอที่จะสวมใส่ตลอดเวลา
- ความหรูหราและดีไซน์: ถ้าคุณใส่ความสำคัญกับดีไซน์ และความหรูหรา คุณควรเลือกนาฬิกาที่มีสไตล์ที่คุณชื่นชอบ
- คุณสมบัติพิเศษ: บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เก็บข้อมูลประวัติความดัน เป็นต้น
- ราคา: มีราคาตั้งแต่ถูกถึงแพง คุณควรกำหนดงบประมาณที่คุณพร้อมจะลงทุน และพิจารณาคุณค่าที่ได้รับ
- การทดสอบก่อนซื้อ: ถ้าเป็นไปได้ คุณควรลองสวมใส่ และทดสอบการใช้งานก่อนซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณรู้สึกสบาย และสามารถใช้งานได้ง่าย
- การรับประกัน: ตรวจสอบว่านาฬิกามาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพหรือไม่
เมื่อคุณพิจารณาตามปัจจัยเหล่านี้ คุณจะสามารถเลือกซื้อนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน ที่เหมาะสมกับความต้องการ และสไตล์ชีวิตของคุณได้อย่างเหมาะสม
ประโยชน์ของนาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน
นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน เป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีประโยชน์มากในการดูแลสุขภาพ และตรวจสอบสภาวะความดันโลหิตของคุณ นี่คือประโยชน์หลักที่นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน :
- การตรวจสอบสุขภาพหัวใจ และหลอดเลือด: ช่วยในการตรวจวัดความดันโลหิต ที่ช่วยให้คุณรับทราบสถานะสุขภาพของหัวใจ และระบบหลอดเลือด ค่าความดันโลหิตที่สูง หรือผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับโรคหัวใจ และหลอดเลือดที่ควรปรับปรุงหรือรักษา
- การตรวจสอบความสมดุลของความดัน: ช่วยในการระบุค่าความดันโลหิตส่วนบน และส่วนล่าง ที่มีผลต่อความสมดุลของระบบหลอดเลือด การรักษาความสมดุลนี้ เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสุขภาพทั้งร่างกาย และจิตใจ
- การตรวจสอบความเสี่ยงของโรค: ค่าความดันโลหิตที่สูงส่วนใหญ่ ไม่แสดงอาการใดๆ นาฬิกาช่วยในการตรวจสอบความเสี่ยงของโรคโดยเฉพาะโรคหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งสามารถช่วยให้คุณตระหนักถึงความเสี่ยง และดำเนินการป้องกันได้ทันที
- การตรวจสอบประสิทธิภาพการรักษา: ถ้าคุณมีปัญหาความดันโลหิต และได้รับการรักษา นาฬิกาจะช่วยในการตรวจสอบว่าการรักษากำลังมีผลหรือไม่ โดยการวัดความดันเป็นประจำจะช่วยให้คุณและแพทย์สามารถดูว่า การปรับปรุงรักษามีผลดี และมีประสิทธิภาพหรือไม่
- การจัดการสุขภาพ: การทำความเข้าใจเกี่ยวกับความดันโลหิต และปรับปรุงการดูแลสุขภาพส่วนบุคคล รวมถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต เช่น การออกกำลังกาย และการควบคุมอาหาร
ดังนั้น นาฬิกาสุขภาพ วัดความดัน เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการช่วยให้คุณรับรู้ และดูแลสุขภาพของคุณได้อย่างเหมาะสม และเป็นระบบ
คำถามที่พบบ่อย
ควรวัดความดันในช่วงเช้า ตอนที่ยังไม่ได้ทานอาหาร หรือดื่มสารคาเฟอีนที่มีความกระตุ้นได้ และยังไม่ได้ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมที่เร่งรีบ นอกจากนี้ควรวัดความดันโดยนั่ง หรือนอน และควรวัดความดันสม่ำเสมอ เช่น ในเวลาเดียวกันทุกวัน
ค่าความดันสูง หรือค่าความดันโลหิตส่วนบน (Systolic Blood Pressure) คือค่าที่วัด เมื่อหัวใจบีบ และส่งโลหิตออกจากหลอดเลือด ค่าความดันต่ำ หรือค่าความดันโลหิตส่วนล่าง (Diastolic Blood Pressure) คือค่าที่วัดเมื่อหัวใจคลายตัว และโลหิตไหลเต็มหลอดเลือด
ค่าความดันโลหิตปกติ เหมาะสม คือประมาณ 120/80 mmHg (มิลลิเมตรปรอทแบ่งด้วยปอนด์ต่อนิ้วกก). แต่ค่าปกติอาจแตกต่างไป ขึ้นกับการรับรู้ของแต่ละองค์กรแพทย์
หากค่าความดันสูง ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อการประเมิน และการรักษาเพิ่มเติม การรักษาอาจเป็นการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินชีวิต การติดตามระดับความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ หรือการรับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์
นาฬิกาวัดความดันแบบอัตโนมัติ ทำงานโดยปัญญาประดิษฐ์ และมีการวัดความดันโดยอัตโนมัติ ส่วนนาฬิกาวัดความดันแบบแมนูเอล ต้องมีคนทำการบีบ และปล่อยโพรปไซท์ด้วยตนเองเพื่อวัดความดัน แบบอัตโนมัติมักมีความสะดวกสบายกว่า และง่ายต่อการใช้งานมากขึ้น แต่แบบแมนูเอล อาจเป็นทางเลือกสำหรับบางคนที่ต้องการความควบคุมในการวัดความดันเอง