การแคมป์ปิ้งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่ทำให้คนสามารถหลุดจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันและได้สัมผัสกับธรรมชาติของความเงียบสงบและความสดชื่นในสถานที่ที่ได้ไปตั้งแคมป์ และแน่นอนว่าอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ “เต็นท์” เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่จะทำให้คุณสามารถเปิดประสบการณ์การแคมป์ปิ้งให้เต็มที่ แต่ในปัจจุบันเต็นท์มีให้เลือกมากมายหลายประเภท และบทความนี้จึงอยากมาแนะนำ 10 อันดับ เต็นท์แคมป์ปิ้ง ยี่ห้อไหนดี ไปดูกันเลย | จัดอันดับโดย Pro4289.com

แนะนำ 10 เต็นท์แคมป์ปิ้ง ยี่ห้อไหนดี 2024

1

Yingerjian เต็นท์แคมป์ปิ้ง สำหรับ 8 - 12 คน

2

Karana รุ่น tent gonex dome 4p cabin สำหรับ 4 คน

3

Camel Crowm เต็นท์แคมป์ปิ้ง สำหรับ 4 - 5 คน

4

Hitorhike x Homful เต็นท์แคมป์ปิ้ง สำหรับ 6 คน

5

Naturehike รุ่น 20D และ รุ่น 210T สำหรับ 2 คน

6

Mountainhiker Nishikawa Cabin สำหรับ 4-5 คน

7

Vidalido Cabin New เต็นท์แคปม์ปิ้ง สำหรับ 4-6 คน

8

Grand Adventure เต็นท์แคมป์ปิ้ง สำหรับ 5 คน

9

Coleman เต็นท์แคมป์ปิ้ง รุ่น Tough Screen 2 Room

10

Blackdeer เต็นท์รุ่น Archeos 3P สำหรับ 3 คน

เต็นท์แคมป์ปิ้ง ยี่ห้อดัง ยอดนิยม

เต็นท์ 5 คน
เต็นท์ 5 คน
เต็นท์ 2-5 คน
20D | 210T
Ango 3
Hiby 3 Man 20D
OT0006
HZGOE0225
OT0189
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์ 4-6 คน
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์โดม 2 คน
เต็นท์โดม 3-4 คน
เต็นท์โดม 4-5 คน
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์ 4 คน
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์ 4-5 คน
เต็นท์ 8-10 คน
เต็นท์ 4-5 คน
เต็นท์ 4-5 คน
เต็นท์ 4-5 คน
เต็นท์ติดแอร์ T890
เต็นท์ติดแอร์ 3000BTU
เต็นท์ติดแอร์ 9000BTU
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์ 3-4 คน
เต็นท์ 6-8 คน

เต็นท์แคมป์ปิ้ง ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

มารู้จักกับ 10 ประเภทของเต็นท์ แคมป์ปิ้ง

เต็นท์แคมป์ปิ้งมีหลายแบบตามลักษณะการใช้งานและความต้องการของผู้ใช้งานเอง ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันเพื่อในสามารถรองรับสภาพแวดล้อมและการใช้งานต่างๆ ได้ดี โดยสามารถแบ่งประเภทของเต็นท์ได้ดังนี้:

  • เต็นท์ป๊อปอัพ [Pop-up Tent] หรือ เต็นท์สปริง จะมาในแพ็คเกจกระเป๋าทรงกลม ถูกออกแบบมาให้กางออกได้ง่าย และสามารถพับเก็บได้ง่ายเช่นกัน เป็นเต็นท์กางอัตโนมัติที่เมื่อดึงเต็นท์ออกมาจากกระเป๋า เต็นท์ก็จะดีดตัวเองเพื่อกางออกอย่างง่ายดาย เต็นท์ป๊อปอัพจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้งานมือใหม่
  • เต็นท์โดม (Dome Tent) เป็นเต็นท์ที่ได้รับความนิยมใช้กันมากในปัจจุบัน มีโครงสร้างของเสาเต็นท์ 2 เสา ต่อไขว้กันเพื่อประกอบขึ้นเป็นทรงโดม ฐานเต็นท์ส่วนใหญ่จะเป็นสี่เหลี่ยมและมีช่องสำหรับระบายอากาศด้านบน พร้อมมีฟลายชีทเล็กๆ เพื่อไว้ปิดกันน้ำค้างหรือน้ำฝน
  • เต็นท์สามเหลี่ยม (Ridge Tent) จะประกอบไปด้วยเสาเต็นท์ 2 เสา และมักจะมี 2 ประตู โดยมีผ้าเต็นท์พาดคลุมทั้งสองด้านและทำการขึงเชือกตอกสมอบกที่มุมของเต็นท์ทั้งสี่ด้าน เพื่อให่เต็นท์ยึดแน่นขึ้น
  • เต็นท์อุโมงค์ (Tunnel Tent) จะมีลักษณะเป็นรูปทรงยาวลึกคล้ายกับอุโมงค์นั่นเอง โดยจะประกอบไปด้วยเสาทรงโค้งสำหรับประกอบขึ้นเป็นเพดาน เต็นท์อุโมงค์จะมีพื้นที่สำหรับใช้สอยและเก็บของได้มากกว่าเต็นท์ทรงโดม เพราะมีความยาวของเต็นท์มากกว่า
  • เต็นท์อุโมงค์กึ่งโดม (Geodesic and Semi-geodesic Tents) เต็นท์ประเภทนี้จะมีโครงสร้างคล้ายกับเต็นท์โดม แต่ที่แตกต่างคือจะมีจำนวนของเสาที่มากกว่า เพื่อไขว้ทับกันด้านในของเต็นท์ จะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างเต็นท์ และจะมีฟลายชีทกางขึงคลุมด้านนอกเต็นท์อีกที เพื่อกันน้ำค้าง น้ำฝน และแสงแดด
  • เต็นท์สูบลม (Inflatable Tent) เป็นเต็นท์ที่มีดีไซน์สมัยใหม่ ดูแปลกตา โดยมีโครงสร้างคล้ายกับเต็นท์อุโมงค์ แต่เต็นท์ประเภทนี้ต่างกันตรงที่ไม่มีเสานั่นเอง แต่จะใช้วิธีการสูบลมเข้าไปด้านในเพื่อให้เต็นท์พองตัวขึ้นรูปเป็นทรง
  • เต็นท์สำหรับแบ็คแพ็ค (Backpacking Tent) จะถูกออกแบบมาเพื่อให้มีน้ำหนักเบา เพื่อให้พกพาได้สะดวกสบายมากขึ้น เต็นท์แบ็คแพ็คส่วนใหญ่จะมีหลังคาที่ต่ำเพื่อให้สามารถรองรับสำหรับพื้นที่ที่มีลมแรง
  • เต็นท์ครอบครัว (Family Tent) เป็นเต็นท์ที่มีขนาดใหญ่กว่าเต็นท์ประเภทอื่นๆ โดยจะมีพื้นที่สำหรับใช้สอยกว้างขึ้น แต่ข้อเสียคือมีน้ำหนักมากขึ้นไปตามขนาดของเต็นท์ด้วย
  • เต็นท์กระโจม (Bell Tent) เต็นท์ประเภทนี้มีลักษณะเป็นเสาเดียวตั้งตรงกลางและมีผ้าเต็นท์คลุมแผ่ออกเป็นรูปวงกลม โดยจะยึดปลายผ้าเต็นท์เข้ากับสมอบก เนื้อผ้าเต็นท์นิยมใช้ผ้าแคนวาส เป็นเนื้อผ้าที่ควบคุมอุณหภูมิในเต็นท์ได้ดี เต็นท์กระโจมจึงเหมาะสำหรับใช้ในช่วงหน้าร้อน
  • เต็นท์คาร์บิ้น (Cabin Tent) หรือ เต็นท์แบบบ้าน เป็นเต็นท์ที่รองรับจำนวนคนได้ 10 ถึง 12 คน ออกแบบมาให้คล้ายกับห้องหนึ่งห้อง เต็นท์มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่ใช้สอยกว้าง เพดานด้านในมีความสูง มีประตู+หน้าต่างที่ใหญ่และกว้าง แต่ข้อเสียคือมีน้ำหนักที่มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

วิธีการเลือกซื้อเต็นท์แคมป์ปิ้ง

การเลือกซื้อเต็นท์แคมป์ปิ้งเป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพื่อให้คุณได้เต็นท์ที่มีคุณภาพดีและเหมาะกับความต้องการ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่คุณจะนำไปใช้งาน เรามีขั้นตอนและวิธีในการเลือกซื้อเต็นท์ ดังนี้:

  1. กำหนดถึงความต้องการของคุณ: คิดให้ดีเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และการใช้งานเต็นท์ที่คุณต้องการ เช่น จำนวนคนที่จะพักในเต็นท์ สภาพอากาศที่จะนำเต็นท์ไปใช้งาน และกิจกรรมที่คุณจะทำในระหว่างการแคมป์ปิ้ง เช่น การปีนเขา เดินป่า หรือตั้งแคมป์ กลางแจ้ง
  2. ขนาดและความจุของเต็นท์: คำนึงถึงจำนวนคนที่ต้องการพักในเต็นท์ ความสบายสำหรับการนอนหลับและการเคลื่อนที่ภายในเต็นท์ แนะนำให้เลือกเต็นท์ที่มีขนาดใหญ่กว่าจำนวนคนที่จะพัก เพื่อความสะดวกและความเป็นส่วนตัว
  3. น้ำหนักและขนาดของเต็นท์: ถ้าคุณจะทำการแคมป์ปิ้งที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย ให้คำนึงถึงน้ำหนักของเต็นท์และความสะดวกในการพับเก็บ ควรเลือกเต็นท์ที่มีน้ำหนักเบาและสามารถพับเก็บได้ง่าย
  4. วัสดุที่ใช้ผลิต: วัสดุที่ใช้ทำเต็นท์จะมีผลต่อความทนทาน ความแข็งแกร่ง และความคงทนต่อสภาพอากาศด้วย เต็นท์ที่ทำจากผ้าคุณภาพดีจะมีความสามารถในการป้องกันน้ำและคงทนต่อแสงแดดได้ดี
  5. โครงสร้างของเต็นท์: การตรวจสอบโครงสร้างของเต็นท์มีความสำคัญ ให้ตรวจสอบเสาและการติดตั้งว่ามีความแข็งแรงเพียงพอต่อสภาพอากาศที่คุณจะนำไปใช้งานตามสถานที่ต่างๆ หรือไม่
  6. การระบายอากาศ: เป็นสิ่งสำคัญในการให้ความสบายภายในเต็นท์ แนะนำให้เลือกเต็นท์ที่มีหน้าต่างหรือสามารถระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความร้อนและความชื้นภายในเต็นท์ได้
  7. ราคาหรืองบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่คุณพร้อมจะใช้จ่ายเพื่อซื้อเต็นท์ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกเต็นท์ที่มีราคาสูงเสมอไป แต่คุณสามารถมองหาเต็นท์ที่เหมาะสมตามความต้องการและงบประมาณของคุณได้
  8. อ่านรีวิวและความคิดเห็นเพิ่มเติม: อ่านรีวิวและความคิดเห็นเพิ่มเติมจากผู้ใช้จริง เพื่อรับข้อมูลและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพและประสิทธิภาพของเต็นท์ที่คุณสนใจ
  9. ทดลองก่อนซื้อมาใช้จริง (ถ้ามี): หากเป็นไปได้ แนะนำให้ทดลองติดตั้งและพับเก็บเต็นท์ก่อนการซื้อมาใช้หรือก่อนจะนำไปใช้งานจริง เพื่อให้คุณได้เข้าใจถึงวิธีการใช้งานและการติดตั้งเต็นท์ได้ดียิ่งขึ้น

โดยสรุป เต็นท์แคมป์ปิ้งเป็นอุปกรณ์ตั้งแคมป์ที่มีความจำเป็น เพื่อความสะดวกสบายในการนอนหลับพักผ่อนและสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น การเลือกซื้อเต็นท์แคมป์ปิ้งจึงเป็นเรื่องให้ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะด้วยลักษณะของการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสภาพแวดล้อมที่จะนำไปใช้งาน หรือขนาดของเต็นท์ที่สามารถรองรับจำนวนคนได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการเลือกประเภทของเต็นท์เพื่อให้ต้องตามความต้องการและความสะดวกสบายในการใช้งาน คุณต้องคิดให้ดีและต้องศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้เต็นท์สำหรับการแคมป์ปิ้งที่เหมาะกับการผจญภัยของคุณอย่างดีที่สุด

คำถามที่พบบ่อย

การเลือกเต็นท์ขึ้นอยู่กับจำนวนคน, สภาพอากาศ, และการใช้งาน แนะนำว่าให้ศึกษาประเภทของเต็นท์ให้ดี เพื่อการเลือกและการตัดสินใจซื้อเต็นท์ได้ตรงตามความต้องการและการใช้งานในแบบของคุณ

ความยากง่ายของการติดตั้งเต็นท์ขึ้นอยู่กับรูปแบบและระบบติดตั้ง ในปัจจุบันมีเต็นท์ที่ง่ายต่อการติดตั้งและมีคู่มือสำหรับวิธีการติดตั้งอย่างละเอียด หรือสามารถหาดูคลิปที่สอนวิธีการติดตั้งและการพับเก็บได้

ความทนทานของเต็นท์ขึ้นอยู่กับวัสดุและคุณภาพ การเลือกเต็นท์ที่ทำจากวัสดุที่มีความทนทานและมีความคงทนสูงจะทำให้ใช้งานได้นานขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นไปด้วยเช่นกัน

ในส่วนของการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย คุณสามารถสอบถามจากร้านที่จะซื้อเต็นท์ได้เลย

ในส่วนของการรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย คุณสามารถสอบถามจากร้านที่จะซื้อเต็นท์ได้เลย

เต็นท์แคมปิ้ง เหมาะสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น การตั้งแคมป์, การปีนเขา, การเดินป่า, กิจกรรมตามชายหาด หรือกิจกรรมกลางแจ้ง ตามสถานที่ธรรมชาติต่างๆ