เตารีดผ้า (Iron) เป็นอุปกรณ์ใช้ในการรีดเสื้อผ้าเพื่อลบรอยยับและทำให้ผ้าดูเรียบร้อย มักมีลักษณะเป็นแผ่นแบนที่สำหรับประคบกับผ้าและมีส่วนที่เรียกว่า “ฐานรีดผ้า” ที่มีความร้อนเพียงพอสำหรับการรีดผ้า มักมีอุณหภูมิความร้อนที่สามารถปรับได้ เพื่อให้ผ้าเรียบ ส่วนบนที่เป็นถ้วยทรงกลมหรือสี่เหลี่ยมไว้ใส่น้ำสำหรับฉีดผ้า ในปัจจุบันมีความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันการระเหิด เป็นอุปกรณ์สำคัญในการดูแลรักษาเสื้อผ้าให้เหมือนใหม่และเรียบร้อย | จัดอันดับโดยเว็บ pro4289.com

10 อันดับ เตารีด ยี่ห้อไหนดี 2024

1

Simplus รุ่น GTJH011

2

Philips รุ่น PSG2000/80

3

Tefal เตารีดไอน้ำ รุ่น FV2845T0

4

Simplus เตารีดไฟฟ้า รุ่น GTJH005

5

Smarthome เตารีด รุ่น SSIR-907

6

Xiaomi เตารีดไอน้ำพกพา iron Mi 2

7

Han River เตารีด รุ่น HRDYD01GY

8

Electrolux เตารีด รุ่น E6SI3-62MN

9

Alectric เตารีดไอน้ำไร้สาย รุ่น PSI1

10

Kashiwa เตารีดไอน้ำ พับได้ รุ่น HD-206

เตารีด ยี่ห้อดัง ยอดนิยม

เตารีด ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

ประวัติความเป็นมาของเตารีด

มีกำเนิดมาจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ในระหว่างประวัติศาสตร์ นี่คือภาพรวม:

1.การรีดผ้าในยุคโบราณ: ยุคโบราณเริ่มต้นด้วยการใช้วัสดุที่ร้อนจากลมและแหล่งไฟเพื่อรีดผ้า นักประวัติศาสตร์ต่างก็รายงานถึงการใช้ความร้อนจากหินล้อเพื่อประทับให้ผ้าเรียบในศตวรรษก่อนคริสตกาล

2.การพัฒนาแบบมือ: เป็นที่นิยมในยุคกลางและปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 โดยมีการปรับปรุงวัสดุและการออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น ส่วนหูที่ออกแบบให้ตั้งครึ่งวงกลมที่มีขนาดใหญ่ทำให้เหมาะสมกับการรีดเสื้อผ้า

3.แบบไอน้ำ: ในปี ค.ศ. 1691 อัปฮาร์ โอสทีมันเคอร์รา เธอร์เบน เป็นผู้ประดิษฐ์แบบแรกที่ใช้ไอน้ำเพื่อรีดผ้า แนวคิดของเธอร์เบนช่วยลดความยุ่งยากในกระบวนการรีดผ้า ในที่สุดแบบไอน้ำกลายเป็นที่นิยมของคนทั่วไป

4.แบบไฟฟ้า: ในปี ค.ศ. 1882 ธีโอดอร์ เมล์ ปาตีสัน ที่ใช้แบบไฟฟ้าเป็นครั้งแรก เป็นการนำไฟฟ้ามาใช้และช่วยเพิ่มความสะดวก

5.แบบสมัยใหม่: ในปัจจุบัน มีการพัฒนาและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ใช้ระบบไอน้ำที่มีความสามารถในการปรับความร้อนและความชื้นเพื่อให้ผ้าเรียบได้อย่างสมบูรณ์ มีเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันการระเหิดและความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น

วิธีเลือกซื้อเตารีด

สามารถทำได้โดยพิจารณาข้อสรุปต่อไปนี้ เพื่อให้คุณได้สิ่งเหมาะสมกับความต้องการ:

1.ประเภท:

  • แบบไอน้ำ: เป็นที่นิยมและมีความสามารถในการรีดผ้าแบบรวดเร็ว มีส่วนประกอบที่มีไอน้ำเพื่อช่วยให้ผ้าเรียบ
  • แบบมือ: ใช้แรงมือในการรีดผ้า มักมีรูปลักษณะที่เรียบง่ายและมีความคงทน แต่อาจเป็นไปได้ที่จะใช้เวลามากกว่าแบบไอน้ำ

2.ความสามารถในการปรับความร้อน:

  • เลือกที่มีความสามารถในการปรับความร้อนตามความต้องการของคุณ เพื่อรีดผ้าตามประเภทและสิ่งที่คุณต้องการให้มีความเรียบ

3.ขนาดและน้ำหนัก:

  • คำนึงถึงพื้นที่ที่ใช้งานและจัดเก็บ เลือกเครื่องที่มีขนาดเหมาะสมและไม่ทำให้บ้านของคุณแออัด
  • ควรพิจารณาน้ำหนัก หากคุณต้องย้ายบ่อยๆ ควรเลือกเครื่องที่มีน้ำหนักเบา

4.ความปลอดภัย:

  • ตรวจสอบว่ามีระบบความปลอดภัย เช่น ระบบป้องกันการระเหิดหรือระบบปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ใช้งาน
  • มีส่วนควบคุมที่มีการตั้งค่าความร้อนและเวลาอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันการรีดผ้าในอุณหภูมิสูงเกินไป

5.คุณภาพและยี่ห้อ:

  • เลือกจากยี่ห้อที่เชื่อถือได้และมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งมักจะมีการรับประกันคุณภาพจากผู้ผลิต
  • อ่านรีวิวและความคิดเห็นของผู้ใช้งานเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ในการใช้งานและปัญหาที่เป็นไปได้

6.ราคา:

  • กำหนดงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับคุณ และเลือกที่อยู่ในราคาที่คุณพร้อมจะจ่าย
  • ควรคิดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในระยะยาว เช่น ค่าไฟฟ้าและการบำรุงรักษา

7.ความเงียบ:

  • ถ้าคุณใช้งานในบริเวณที่ต้องการความเงียบ ควรเลือกเครื่องที่มีเสียงการทำงานน้อย

การเลือกเตารีดผ้าที่เหมาะสมอาจใช้เวลา คุณควรพิจารณาความต้องการและประโยชน์ที่สำคัญสำหรับครัวของคุณเพื่อเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างดีที่สุด

ประโยชน์ของเตารีด

ช่วยให้คุณรีดผ้าที่ยับได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย นี่คือประโยชน์หลาย ๆ อย่าง:

1.การรีดผ้าเรียบ: ช่วยให้ผ้าเรียบและพร้อมใส่ในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะเสื้อผ้าที่ต้องการความเรียบ

2.ลบรอยยับ: ทำให้ผ้าดูดีและเรียบมากขึ้น สำหรับผ้าชนิดบางและลายพิเศษ การรีดผ้าเป็นวิธีที่ดีในการรักษาความสวยงามของผ้า

3.ประหยัดเวลา: ช่วยลดเวลาในการรีดผ้า คุณสามารถรีดผ้าหลายชิ้นพร้อมกันในเวลาสั้น

4.ความสะดวกสบาย: คุณสามารถรีดผ้าที่บ้านของคุณเมื่อคุณต้องการ ไม่ต้องรอหรือเดินทางไปร้านรีด

5.การดูแลรักษาผ้า: ช่วยในการดูแลรักษาผ้า ลดความเสียหายจากการใช้งานตามเวลา

6.การปรับแต่งอุณหภูมิ: สามารถปรับอุณหภูมิตามประเภทของผ้าที่คุณรีด ช่วยป้องกันความเสียหายต่อผ้าในอุณหภูมิที่สูงเกินไป

7.การป้องกันการระเหิด: บางรุ่นมีระบบป้องกันการระเหิด ที่ช่วยลดความเสียหายต่อผ้าและความปลอดภัยในการใช้งาน

8.การจัดเก็บสะดวก: มักมีขนาดเล็กที่สามารถจัดเก็บได้ง่ายโดยไม่เสียพื้นที่มาก

9.การประหยัดเงิน: ช่วยประหยัดเงินที่คุณอาจจะต้องจ่ายให้ร้านรีด

ในการดูแลรักษาผ้าและทำให้คุณดูดีและเรียบร้อยตลอดเวลา ช่วยประหยัดเวลาและเงินในการรีดผ้า และเป็นสิ่งจำเป็นในบ้านของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

มีการตั้งค่าอุณหภูมิที่สามารถปรับได้ตามความต้องการ อุณหภูมิที่แนะนำในการรีดผ้ามีหลายระดับ:

  • อุณหภูมิต่ำ (Low): ใช้สำหรับผ้าชนิดอ่อนและบาง
  • อุณหภูมิปานกลาง (Medium): ใช้สำหรับผ้าประเภทมาตรฐาน เช่น เสื้อผ้าประจำวัน
  • อุณหภูมิสูง (High): ใช้สำหรับผ้าที่หนา และต้องการความเรียบโดยเฉพาะ

ใช้น้ำที่สะอาด ทำความสะอาดฐานเตารีดเสมอ เพื่อให้เครื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและยืนยาว

มีน้ำเพื่อสร้างไอน้ำ ช่วยให้ผ้าเรียบและลดรอยยับ