เครื่องเชื่อมไฟฟ้า (Electric Welding Machine) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการเชื่อมต่อวัสดุโลหะด้วยการสร้างกำลังไฟฟ้าในรูปแบบความร้อนเพื่อทำให้วัสดุเหล่านั้นเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนาและคงทน กระบวนการเชื่อมด้วยเครื่องเชื่อมไฟฟ้านี้เป็นวิธีการเชื่อมที่แพร่หลายและได้รับความนิยมในหลายอุตสาหกรรมและงานต่าง ๆ รวมถึงงานก่อสร้าง, การผลิต, และงานช่างทั่วไปที่ต้องการการเชื่อมเพื่อเป็นการเชื่อมต่อของวัสดุโลหะทำงานโดยใช้กระแสไฟฟ้า (electric current) ในรูปแบบความร้อน เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านชิ้นงานโลหะที่ต้องการเชื่อม, มันสร้างความร้อนและความแสงของแอร์ค (arc) ระหว่างชิ้นงานนั้น ๆ และชิ้นงานที่จะเชื่อม การเชื่อมแบบนี้ทำให้วัสดุเหล่านั้นละลายและเชื่อมต่อกันเมื่อเย็นสนิทจะกลายเป็นการต่อเนื่องและแข็งแรง สามารถใช้ในการเชื่อมเหล็ก, อลูมิเนียม, เหล็กกันสนิม, ทองแดง, และวัสดุโลหะอื่น ๆ อีกมากมายตามความเหมาะสมของเครื่องเชื่อมและกระบวนการเชื่อมที่ใช้ เครื่องเชื่อมไฟฟ้ามีความสำคัญในการสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีโครงสร้างแข็งแรงและคุณภาพสูง เช่น การสร้างรถยนต์, เครื่องบิน, โครงสร้างอาคาร, ชิ้นส่วนเครื่องจักร, และอื่น ๆ การเลือกใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับงานและวัสดุที่เราต้องการเชื่อมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้งานเชื่อมมีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด ไปดูกันเลยว่า 10 อันดับเครื่องเชื่อมยอดนิยมมียี่ห้อไหนกันบ้าง |จัดอันดันโดย www.pro4289.com

10 อันดับ เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2024

1

InnTech Inverter IGBT MMA-600S

2

STELLAR Inverter IGBT MMA-990S

3

TOMA JAPAN รุ่น MIG/MMA/TIG-990

4

FALCON รุ่น MAX ARC 160

5

NOVOARC รุ่น NOVO-160

6

AUSTIN รุ่น MIG-500

7

TRYTON รุ่น TT-MIG200T

8

NASH รุ่น MMA160D |CAB

9

PUMPKIN รุ่น HOME 120A

10

LEOPRO LP42007 รุ่น MMA-350

เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ยี่ห้อดัง ยอดนิยม

IGBT MMA-990S
GBT MMA-600S
IGBT 500A
TRYTON MMA
TRYTON TT-MIG200T
TRYTON MMA-DC
HOME 120A
ECO140Plus
SUPER160A
LEOPRO LP42007
EOPRO LP42006
LEOPRO LP2652DFR
NASH TIG-200A
NASH MMA-200
NASH MMA160D
JIAPU ตู้เชื่อม
JIAPU รุ่นใหม่ล่าสุด
JIAPU เลื่อยตัดไม้
HESSEY MMA-160I
HESSEY MMA-140I
HESSEY MMA-200I

REALM MALL Official Store

REALM MIG-250
REALM MIG/ MMA
เครื่องฉีดน้ำแรงสูง

เครื่องเชื่อมไฟฟ้า ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

วิธีการเลือก เครื่องเชื่อมไฟฟ้า

  • ความต้องการงาน : กำหนดประเภทของงานที่คุณจะทำ เช่น เชื่อมเหล็ก, เชื่อมอลูมิเนียม, หรืองานเชื่อมแบบพิเศษ เป็นต้น
  • ความแม่นยำและความเร็ว : กำหนดระดับความแม่นยำที่คุณต้องการในการเชื่อม รวมถึงความเร็วในการเชื่อม เพื่อให้เครื่องเชื่อมที่คุณเลือกมีสเปกที่เหมาะสม
  • แหล่งพลังงาน : คำนึงถึงแหล่งพลังงานที่คุณมีในการใช้งาน เช่น ไฟฟ้าสาย 220V หรือ 110V เพื่อให้เครื่องเชื่อมที่คุณเลือกเข้ากับระบบไฟฟ้าของคุณ
  • ความปลอดภัย : ตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องเชื่อมและความปลอดภัยในการใช้งานประจำวัน เช่น มีระบบป้องกันตัวเครื่องจากการช็อตไฟฟ้าหรือไม่
  • ความพร้อมใช้งาน : ตรวจสอบความพร้อมใช้งานของเครื่องเชื่อม ควรเลือกเครื่องเชื่อมที่ใช้งานได้ง่ายและมีความเสถียร
  • ราคาและงบประมาณ : กำหนดงบประมาณที่คุณสามารถรับได้ และค้นหาเครื่องเชื่อมที่ตรงกับงบประมาณของคุณ อย่าลืมคำนึงถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น วัสดุอุปกรณ์เสริมและการบำรุงรักษา
  • ความสามารถของผู้ใช้ : ควรพิจารณาระดับความชำนาญในการเชื่อมของคุณ หากคุณเป็นมือใหม่กับการเชื่อม ควรเลือกเครื่องที่ใช้งานง่าย แต่ถ้าคุณมีประสบการณ์มาก สามารถเลือกเครื่องที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้

ประเภทของเครื่องเชื่อมไฟฟ้า

เครื่องเชื่อมไฟฟ้า (Electric Welding Machine) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการเชื่อมต่อวัสดุโลหะด้วยการสร้างกำลังไฟฟ้าในรูปแบบความร้อนเพื่อทำให้วัสดุเหล่านั้นเชื่อมต่อกัน. มีหลายประเภทของเครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่ใช้กันตามงานและการใช้งานต่าง ๆ ดังนี้:

  • เครื่องเชื่อมอาร์ก (Arc Welding Machine):
    • เครื่องเชื่อมอาร์ก (Arc Welder) ใช้กระแสไฟฟ้าสลับหรือกระแสไฟฟ้าตรงเพื่อสร้างความร้อนและความแสงของแอร์ค (arc) ระหว่างอลูมิเนียมหรือเหล็กกับชิ้นงานที่จะเชื่อม
    • มีหลายประเภทของเครื่องเชื่อมอาร์ก เช่น เครื่องเชื่อมอาร์กเหล็กเคลือบแก้ว (SMAW), โลหะกันสนิม (MIG), โลหะกันสนิมเอ็มเอชไอ (MHIAW), และอื่น ๆ
  • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์ (Inverter Welding Machine):

    • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าอินเวอร์เตอร์เป็นเครื่องเชื่อมที่มีขนาดเล็กและเบามาก มีความสามารถในการควบคุมกระแสไฟฟ้าและแรงดันไฟฟ้าได้ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำและความนิยมในงานเชื่อม
  • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าแอลเอสดี (AC/DC Welding Machine):

    • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าแอลเอสดีสามารถใช้งานในโหมดกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) และกระแสไฟฟ้าตรง (DC) ซึ่งทำให้มีความสามารถในการเชื่อมหลายชนิดของวัสดุ
  • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าแบบชาร์จไฟฟ้า (Battery Welding Machine):

    • เครื่องเชื่อมนี้ใช้แบตเตอรี่เป็นแหล่งพลังงานและเหมาะสำหรับงานเชื่อมในสถานที่ที่ไม่มีกระแสไฟฟ้าสามารถใช้งานได้
  • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าออโตเมติก (Automated Welding Machine):

    • เครื่องเชื่อมไฟฟ้าออโตเมติกใช้ในการเชื่อมงานอัตโนมัติ โดยมีการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำและประสิทธิภาพสูง
  • เครื่องเชื่อมโพรเจ็กชัน (Projection Welding Machine):

    • เครื่องเชื่อมโพรเจ็กชันใช้ในการเชื่อมชิ้นงานโลหะโดยการใช้แรงกดที่ความร้อนและแรงดันไฟฟ้าสูง
  • เครื่องเชื่อมลิเม็ต (Laser Welding Machine):

    • เครื่องเชื่อมลิเมตใช้เลเซอร์เพื่อเชื่อมวัสดุโลหะอย่างแม่นยำ มักใช้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง

การเลือกเครื่องเชื่อมไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับประเภทงานที่คุณทำ, วัสดุที่คุณต้องการเชื่อม, และความต้องการในเรื่องของความแม่นยำและความเร็วในการเชื่อม เพื่อให้งานเชื่อมออกมามีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีที่สุด. แนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้รู้เรื่องการเชื่อมไฟฟ้าเพื่อความแน่ใจในการเลือกเครื่องเชื่อมที่เหมาะสมสำหรับงานของคุณ.

คำถามที่พบบ่อย

ยี่ห้อและรุ่นของตู้เชื่อมที่ยอดนิยมในประเทศไทยอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาและความเคลื่อนไหวในตลาด เนื่องจากตลาดอุตสาหกรรมและการผลิตมีความหลากหลายมากๆ ดังนั้นยี่ห้อและรุ่นที่ได้รับความนิยมอาจมีความแตกต่างในแต่ละช่วงเวลา โดยรวมแล้ว บางยี่ห้อที่เป็นที่นิยมในตลาดเชื่อมไฟฟ้าในประเทศไทยได้แก่:

  • Lincoln Electric: Lincoln Electric เป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียงทั่วโลกและมีส่วนแบ่งตลาดในประเทศไทยอย่างกว้างขวาง ตู้เชื่อมของ Lincoln Electric มีคุณภาพสูงและมักถูกนำมาใช้ในงานอุตสาหกรรมและโครงการใหญ่ ๆ
  • Fronius: Fronius เป็นยี่ห้อเชื่อมจากออสเตรียที่มีเครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่สมราคาและมีคุณภาพดี นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและระบบควบคุมที่ดี
  • ESAB: ESAB เป็นยี่ห้อสากลที่ผลิตเครื่องเชื่อมไฟฟ้าคุณภาพสูง มีความสามารถในการรองรับงานเชื่อมที่หลากหลายและมีราคาที่เข้าถึง
  • Kemppi: Kemppi เป็นยี่ห้อยุคใหม่ที่มีเครื่องเชื่อมที่ควบคุมแม่นยำและมีสมรรถนะสูง เครื่องเชื่อม Kemppi มักถูกนำมาใช้ในงานงานช่างที่ต้องการความเป็นมืออาชีพ
  • Jasic: Jasic เป็นยี่ห้อจีนที่ได้รับความนิยมในบางส่วนของตลาดเชื่อมไฟฟ้าในประเทศไทย เครื่องเชื่อม Jasic มีราคาที่เข้าถึงและคุณภาพที่ดีสำหรับช่างทั่วไป

โปรดทราบว่าความนิยมของยี่ห้อและรุ่นอาจมีความแตกต่างในแต่ละภูมิภาคและอุตสาหกรรม เพราะฉะนั้นควรพิจารณาความต้องการของงานและงบประมาณของคุณเพื่อเลือกเครื่องเชื่อมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ.

ตู้เชื่อม 1 ระบบ (Single System Welding Cabinet) และตู้เชื่อม 2 ระบบ (Dual System Welding Cabinet) เป็นสองประเภทของอุปกรณ์เชื่อมที่ใช้ในงานเชื่อม แต่มีความแตกต่างกันอย่างสำคัญในรูปแบบการใช้งานและการประยุกต์ใช้งานดังนี้:

  1. ตู้เชื่อม 1 ระบบ (Single System Welding Cabinet):

    • ตู้เชื่อม 1 ระบบมีหมายถึงตู้เชื่อมที่มีเครื่องเชื่อมไฟฟ้าเพียงระบบเดียวภายในตู้เดียว คุณสามารถใช้เครื่องเชื่อมนี้สำหรับงานเชื่อมแบบเดียวเท่านั้น ไม่สามารถทำงานพร้อมกันกับงานเชื่อมระบบอื่น ๆ ได้ นี่คือสิ่งที่ใช้ในการเชื่อมโดยไม่มีการแบ่งปันระบบหรือเปลี่ยนโหมดงานเชื่อมได้โดยง่าย มันเหมาะสำหรับงานเชื่อมที่มีความสำคัญและต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานเชื่อมทางตัวแม่นยำ หรืองานที่ต้องการการควบคุมแม่นยำของกระแสไฟฟ้าและการจ่ายสายเชื่อมในการเชื่อมแบบซับซ้อน
  2. ตู้เชื่อม 2 ระบบ (Dual System Welding Cabinet):

    • ตู้เชื่อม 2 ระบบมีความสามารถในการรองรับสองระบบเครื่องเชื่อมไฟฟ้าที่แตกต่างกันในตู้เดียว นี่คือคุณสามารถใช้งานเครื่องเชื่อมไฟฟ้าสองระบบพร้อมกันหรือสลับระหว่างการใช้งานได้ มันเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการเชื่อมหลายๆ วัสดุหรืองานเชื่อมที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงระหว่างโหมดงานเชื่อมได้ง่าย ๆ เช่น งานช่างที่ต้องเชื่อมวัสดุที่แตกต่างกันหลายชนิดในโปรเจกต์เดียว.

สรุปได้ว่า ความแตกต่างระหว่างตู้เชื่อม 1 ระบบและ ตู้เชื่อม 2 ระบบอยู่ในความสามารถในการรองรับและควบคุมระบบเครื่องเชื่อมไฟฟ้า คุณควรเลือกตู้เชื่อมที่เหมาะสมกับความต้องการและงานเชื่อมของคุณเพื่อให้การเชื่อมมีประสิทธิภาพและคุณภาพที่ดีที่สุดตามที่คุณต้องการ.

การดูแลและรักษาเครื่องเชื่อมไฟฟ้าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เครื่องเชื่อมทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและยืนยาวนาน ด้านล่างนี้เป็นขั้นตอนและเคล็ดลับในการดูแลรักษาเครื่องเชื่อมไฟฟ้า:

  • ความปลอดภัย:ใช้เครื่องเชื่อมให้เป็นไปตามคู่มือผู้ผลิตและคำแนะนำการใช้งานเพื่อความปลอดภัย ใส่อุปกรณ์ป้องกันตาและเสื้อคลุมเมื่อทำงานเชื่อม เพื่อป้องกันจากเชื้อเพลิงและรอยเผา
  • ความสะอาด: รักษาความสะอาดของเครื่องเชื่อมและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น เปลี่ยนตัวกรองอากาศเป็นประจำ ล้างเครื่องเชื่อมเป็นระยะที่สมควร เพื่อล้างความสกปรกและร่อนฝ้ายที่อาจสะสมอยู่
  • การเก็บรักษา:เก็บเครื่องเชื่อมในที่แห้งและป้องกันน้ำฝนหรือความชื้นเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมซึ่งอาจทำให้ทำงานเชื่อมไม่ได้ดี
  • ตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ:ตรวจสอบสายไฟและสายเชื่อมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสายด้านนอกหรือซับซ้อนที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ ตรวจสอบสวิตช์และปุ่มควบคุมเครื่องเชื่อมว่าทำงานได้อย่างถูกต้อง
  • บำรุงรักษาเครื่องเชื่อม:รับบำรุงรักษาตามคู่มือของผู้ผลิต เช่น การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอตามเวลาที่กำหนด ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องเชื่อมเป็นระยะ เพื่อให้มั่นใจในความประสิทธิภาพของเครื่อง
  • การเชื่อมต่อไฟฟ้า:ตรวจสอบสายไฟและการเชื่อมต่อไฟฟ้าเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสายด้านนอกหรือตำรวจสอบสายไฟที่ชำรุด
  • เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุด:หากพบว่ามีชิ้นส่วนของเครื่องเชื่อมเสียหากทางผู้ผลิตแนะนำให้เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุดด้วยชิ้นส่วนที่มีคุณภาพแทน

การดูแลและรักษาเครื่องเชื่อมไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของเครื่องและรักษาความปลอดภัยในการทำงานเชื่อมไฟฟ้าแบบต่อเนื่องได้. แนะนำให้ทำการบำรุงรักษาตามคำแนะนำของผู้ผลิตและในกรณีที่ไม่แน่ใจให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเชื่อมไฟฟ้าเพื่อความชำนาญในการดูแลรักษาเครื่องเชื่อมไฟฟ้า

การใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่ต้องใส่ใจความปลอดภัยอย่างสูงเนื่องจากมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและความเสี่ยงต่อสุขภาพ ดังนั้นนี่คือข้อควรระวังที่สำคัญในการใช้เครื่องเชื่อมไฟฟ้า:

  • ใส่อุปกรณ์ป้องกันตาและอุปกรณ์ป้องกันร่างกาย: ใส่แว่นตาป้องกันตาและหมวกป้องกันรอยเผาเมื่อทำงานเชื่อม
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตราย : หลีกเลี่ยงการหายใจเมื่อทำงานเชื่อมไฟฟ้าโดยไม่ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นและสารเคมีอันตราย สามารถใช้ระบบระบายอากาศแบบพิเศษหรือห้องป้องกันได้ตามความเหมาะสม
  • ควบคุมไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า: รักษาความปลอดภัยด้วยการตรวจสอบสายไฟและการเชื่อมต่อไฟฟ้าให้แน่ใจว่าไม่มีสายไฟด้านนอกหรือชำรุด ระวังการเดินเส้นไฟฟ้าและของแตกต่างกับบริเวณทำงาน
  • เลือกที่ทำงานที่มีอากาศถ่ายเทดี: ถ้าเป็นไปได้ให้ทำงานเชื่อมในพื้นที่ที่มีระบบระบายอากาศที่ดี เพื่อลดการสะสมของควันและอนุภาคเชื้อเพลิงในอากาศ
  • หยุดเครื่องเชื่อมเมื่อไม่ใช้งาน: ตรวจสอบว่าเครื่องเชื่อมไฟฟ้าถูกปิดหรือไม่เมื่อไม่ใช้งาน ระวังการทำงานในสถานะพร้อมกันกับการเชื่อมอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
  • อ่านคู่มือการใช้งาน: อ่านคู่มือการใช้งานของเครื่องเชื่อมไฟฟ้าและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • ไม่สัมผัสชิ้นงานที่ร้อน: ไม่สัมผัสชิ้นงานหรือเครื่องเชื่อมที่ร้อนโดยตรง เพราะอาจทำให้เกิดการไหม้หรือบาดแผล
  • ตรวจสอบและบำรุงรักษาตามรอบการบำรุงรักษา: ตรวจสอบเครื่องเชื่อมเป็นระยะเวลา เช่น การเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สึกหรอ, การล้างความสกปรก, และการปรับแต่งตามความเหมาะสม

เครื่องเชื่อมไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานอันตราย การปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและคำแนะนำของผู้ผลิตเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้ใช้งานและผู้อื่นในบริเวณที่ทำงาน