เส้นผมเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมบุคลิกภาพของคนๆ หนึ่งให้ดูมีเสน่ห์และสวยงามมากขึ้น แต่การดูแลเส้นผมเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี มีความเงางามไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สภาพแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ ที่มาพร้อมกับการใช้ชีวิตประจำวันของเราสามารถทำลายเส้นผมได้โดยไม่รู้ตัว สิ่งที่คนหลายคนเลือกทำเพื่อรักษาและเสริมสร้างความสวยงามของเส้นผมก็คือการทำ “ทรีทเม้นท์ผม” (Hair Treatments)

ทรีทเม้นท์ผมคือกระบวนการที่ใช้ในการเสริมสร้างและดูแลเส้นผมเพื่อให้เส้นผมดูเรียบตรง แข็งแรงและเงางาม การทำทรีทเม้นท์ผมจึงมุ่งเน้นในเรื่องของการให้ความสำคัญในการดูแลและปรับปรุงสภาพของเส้นผม เพื่อให้เส้นผมมีความสวยงามมากขึ้น และลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นผม เช่น ผมแห้ง เสียหาย ผมแตกปลาย เป็นต้น

ดังนั้นการทำทรีทเม้นท์ผมมีหลายวิธี ซึ่งบางวิธีอาจมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการให้ความชุ่มชื้นและคืนความมีชีวิตชีวาให้กับเส้นผม อีกวิธีหนึ่งอาจเน้นทำให้เส้นผมแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่น หรือการซ่อมแซมเส้นผมที่มีปัญหาเสียหายที่เกิดจากปัจจัยอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น:

  1. Hair Conditioning Treatment: ทรีทเม้นท์เพื่อทำให้เส้นผมนุ่ม ชุ่มชื้น และมีความเงางาม
  2. Hair Strengthening Treatment: ทรีทเม้นท์เพื่อปรับปรุงโครงสร้างของเส้นผมตั้งแต่โคนจรดปลาย โดยเน้นการซ่อมแซมเส้นผมให้แข็งแรง ลดการแตกปลาย และช่วยให้ผมมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  3. Hair Repair Treatment: ทรีทเม้นท์เพื่อการซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหาย คืนความมีชีวิตชีวาให้กับเส้นผมและช่วยปรับปรุงให้เส้นผมกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
  4. Color-treated Hair Treatment: ทรีทเม้นท์สำหรับผมทำสี ช่วยดูแลเส้นผมที่ได้รับการทำสีหรือเปลี่ยนสีผมบ่อย เพื่อลดความเสียหายที่เกิดจากการทำสีผม
  5. Scalp Treatment: ทรีทเม้นท์นวดผมเพื่อทำความสะอาดและดูแลหนังศีรษะ ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม

การทำทรีทเม้นท์ผมอาจจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผมที่มีส่วนประกอบที่เป็นประโยชน์ในการดูแลเส้นผม เช่น น้ำมันผสมสารสกัดจากธรรมชาติ วิตามิน โปรตีน เป็นต้น ในบทความนี้เราจึงอยากแนะนำ 10 อันดับ ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนดี ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้มากที่สุด | จัดอันดับโดย Pro4289.com

แนะนํา 10 ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนใช้ดี 2024

1

L'Oreal Paris ทรีทเม้นท์ผม Extraordinary Oil

2

Divyne ทรีทเม้นท์ผม Strand Strengthen Hair Masque

3

Nigao ทรีทเม้นท์ผม Hair Treatment Herbal Rich

4

Bergamot ทรีทเม้นท์ผม The Original Hair Treatment

5

Carista ทรีทเม้นท์ผม Goat Milk Premium Keratin Mask

6

Dr.Pong ทรีทเม้นท์ผม 003 Hair Core Treatment

7

TRESemme ทรีทเม้นท์ผม Bleached and Colored Hair

8

Lolane ทรีทเม้นท์ผม Natura Hair Treatment

9

Olaplex ทรีทเม้นท์ผม No.3 Hair Perfector

10

AloEx ทรีทเม้นท์ผม Natural Hair Mask

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อดัง ยอดนิยม

ทรีทเม้นท์ผม ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

การใช้ทรีทเม้นท์ผม มีผลดีอะไรบ้าง

การใช้ทรีทเม้นท์ผมอาจให้ผลดีในหลายๆ ด้านของเส้นผมของคุณ ดังนี้:

  1. เส้นผมนุ่มลื่นและชุ่มชื้น: การทำทรีทเม้นท์ผมช่วยเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมที่แห้งและขาดน้ำ ทำให้เส้นผมดูนุ่ม มีน้ำหนักและมีชีวิตชีวามากขึ้น
  2. ลดปัญหาของเส้นผม: บางทรีทเม้นท์สามารถช่วยลดปัญหาของเส้นผม เช่น บำรุงและซ่อมแซมเส้นผมที่แตกปลาย หรือช่วยล้างสารและคราบสกปรกที่เกาะติดเส้นผมออกจากเส้นผมได้อย่างหมดจด
  3. เส้นผมแข็งแรง: ทรีทเม้นท์จะเน้นให้ความสำคัญกับการปรับปรุงโครงสร้างของเส้นผม จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรง ลดการขาดร่วงและความเสียหายจากการทำสีผมได้
  4. ประสิทธิภาพในการทำผมตามสไตล์ต่างๆ: เมื่อเส้นผมของคุณมีสุขภาพที่ดีและมีความนุ่มชุ่มชื้น จะสามารถทำผมสไตล์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและได้ทรงผมที่สวยงามมากขึ้น
  5. ช่วยให้ผมสวยงามและเสริมบุคลิกภาพให้มีเสน่ห์: ทรีทเม้นท์ผมช่วยเสริมสร้างความสวยงามให้กับเส้นผมของคุณ ทำให้คุณมีความมั่นใจ พร้อมเสริมสร้างบุคลิกภาพให้คุณดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
  6. ลดความเสียหายจากการทำสีหรือการใช้ความร้อน: หากคุณทำสีผมบ่อยหรือมีการใช้ความร้อนบนเส้นผม เช่น การเป่าผม ไดร์ผม  หรืออบไอน้ำบ่อยๆ ทรีทเม้นท์ผมบางชนิด จะมีส่วนผสมที่ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากสารทำสีผมและการใช้ความร้อนกับเส้นผมได้ เพื่อฟื้นบำรุงให้เส้นผมแข็งแรง มีสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

คำเตือน: การทำทรีทเม้นท์ผมบ่อยอาจทำให้เส้นผมมีการสะสมความชุ่มชื้นที่มากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เส้นผมดูหนามากเกินไปได้ ดังนั้นควรปรึกษาช่างทำผมหรือผู้เชี่ยวชาญในการทำทรีทเม้นท์ผม เพื่อเลือกทรีทเม้นท์ที่เหมาะสมและให้ผลดีต่อเส้นผมของคุณมากที่สุด

วิธีเลือกซื้อ ทรีทเม้นท์ผม

การเลือกซื้อทรีทเม้นท์ผมเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสมกับเส้นผมของคุณ เราขอแนะนำขั้นตอนการเลือกซื้อทรีทเม้นท์ผม เพื่อให้คุณได้นำไปพิจารณาในการเลือกซื้อได้อย่างเหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณ ดังนี้:

  1. วัตถุประสงค์ของการทำทรีทเม้นท์ผม: กำหนดวัตถุประสงค์ที่คุณต้องการทำทรีทเม้นท์ผม ว่าเส้นผมของคุณต้องการดูแลหรือบำรุงให้เรื่องอะไร เช่น ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมที่แห้งและขาดน้ำ หรือต้องการทำทรีทเม้นท์ในบำรุงสำหรับการทำสีผม เป็นต้น การเลือกทรีทเม้นท์ที่เหมาะสมต้องรู้ถึงความต้องการในการดูแลเส้นผมของคุณด้วย
  2. ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์: ตรวจสอบส่วนประกอบของทรีทเม้นท์ผมว่ามีสารอะไรบ้างที่ใช้ในทรีทเม้นท์ หากคุณมีอาการแพ้ต่อสารง่ายหรือมีเส้นผมที่ต้องการเลือกประเภทของทรีทเม้นท์ที่ไม่มีส่วนประกอบที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับเส้นผม
  3. ประเภทของเส้นผมของคุณ: ตรวจสอบสภาพของเส้นผมของคุณให้ดีว่าเหมาะกับการใช้ทรีทเม้นท์แบบไหนในการบำรุงผม เช่น หากเส้นผมของคุณแห้งและขาดน้ำ ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผม
  4. แบรนด์และความนิยม: ควรเลือกซื้อทรีทเม้นท์ผมจากแบรนด์ที่ได้รับความนิยมและได้รับความเชื่อถือจากผู้ใช้งานคนอื่นๆ แนะนำว่าควรอ่านรีวิวและความคิดเห็นของผู้ใช้งานเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นเหมาะสมสำหรับเส้นผมของคุณ
  5. ราคา: ตรวจสอบราคาของทรีทเม้นท์ผมในตลาด อย่าซื้อทรีทเม้นท์ผมที่ราคาถูกเกินไปหรือราคาแพงเกินไป ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
  6. การประยุกต์ใช้: ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่ใช้ง่ายและสะดวกต่อการประยุกต์ใช้ เช่น ถ้าคุณไม่มีเวลาว่างเพื่อทำทรีทเม้นท์ที่บ้าน ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่ใช้ง่ายและเสริมสร้างความสวยงามให้กับเส้นผมได้อย่างรวดเร็ว คุณอาจเลือกใช้เป็นทรีทเม้นท์แบบไม่ต้องล้างออก
  7. คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าทรีทเม้นท์แบบใดที่เหมาะกับเส้นผมของคุณ ควรปรึกษาช่างทำผมหรือผู้เชี่ยวชาญในการทำทรีทเม้นท์ผม เพื่อขอคำแนะนำและการเลือกซื้อทรีทเม้นท์มาใช้การเส้นผมได้อย่างเหมาะสม

การเลือกซื้อทรีทเม้นท์ผมที่เหมาะสมและใช้งานได้ดีจะช่วยให้เส้นผมของคุณดูสวย เงางาม และเส้นผมมีความแข็งแรง ไม่ขาดหลุดร่วงง่าย อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่มั่นใจว่าจะเลือกใช้ทรีทเม้นท์แบบไหนที่จะเหมาะสมเส้นผมของคุณ คุณสามารถปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำในการเลือกใช้ทรีทเม้นท์หรือผลิตภัณฑ์ดูแลผมอื่นๆ จากพนักขายผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหรือจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของเส้นผมและช่างทำผมใกล้บ้านคุณได้

ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนน่าใช้ที่สุด

การเลือกใช้ทรีทเม้นท์สำหรับการดูแลและบำรุงเส้นผมตั้งแต่โคนจรดปลาย เพื่อให้เส้นผมสวย เงางาม ลดการขาดร่วง เราขอแนะนำ Top 5 ทรีทเม้นท์ผม ยี่ห้อไหนน่าใช้ โดยได้รับความนิยมใช้กันเป็นจำนวนมาก ได้แก่:

  1. L’Oreal Paris Extraordinary Oil ดูข้อมูลเพิ่มเติม >> คลิก <<
  2. Divyne Strand Strengthen Hair Masque ดูข้อมูลเพิ่มเติม >> คลิก <<
  3. Nigao Hair Treatment Herbal Rich ดูข้อมูลเพิ่มเติม >> คลิก <<
  4. Bergamot The Original Hair Treatment ดูข้อมูลเพิ่มเติม >> คลิก <<
  5. Carista Goat Milk Premium Keratin Mask ดูข้อมูลเพิ่มเติม >> คลิก <<

โดยสรุป การทำทรีทเม้นท์ผมเป็นวิธีที่น่าสนใจและมีประโยชน์สำหรับการดูแลเส้นผม ไม่ว่าจะเป็นทรีทเม้นท์เพื่อให้เส้นผมนุ่มสลวยสวยงาม หรือทรีทเม้นท์ช่วยเสริมและปรับปรุงโครงสร้างของเส้นผมเพื่อเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้กับผม รวมไปถึงทรีทเม้นท์ช่วยในการซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหาย จากมลภาวะหรือจากการทำสีผม การเลือกซื้อเลือกใช้ทรีทเม้นท์ผมที่เหมาะสมเพื่อการดูแลเส้นผมของคุณจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ หากคุณไม่มีประสบการณ์ในการทำทรีทเม้นท์รวมถึงความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผม คุณควรปรึกษาช่างทำผมหรือผู้เชี่ยวชาญในการทำทรีทเม้นท์ผมเพื่อขอคำแนะนำและการเลือกใช้ทรีทเม้นท์ผมที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

  1. ทรีทเม้นท์ปรับปรุงโครงสร้างเส้นผม (Hair Strengthening Treatment)
  2. ทรีทเม้นท์ซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหาย (Hair Repair Treatment)
  3. ทรีทเม้นท์สำหรับผมทำสี (Color-treated Hair Treatment)

คำแนะนำ: หากคุณสนใจทำทรีทเม้นท์ผม ควรปรึกษาช่างทำผมหรือผู้เชี่ยวชาญการทำทรีทเม้นท์ผมเพื่อขอคำแนะนำและเลือกทรีทเม้นท์ที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณ

ความถี่ในการทำทรีทเม้นท์ผมขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพของเส้นผมคุณ รวมถึงประเภทของทรีทเม้นท์ที่คุณทำด้วย นี่คือข้อควรระวังและคำแนะนำในการกำหนดความถี่ในการทำทรีทเม้นท์ผม:

  1. อายุของทรีทเม้นท์: ทรีทเม้นท์ผมบางประเภทอาจต้องทำซ้ำเป็นระยะเวลาบางช่วง ดังนั้นควรประเมินว่าทรีทเม้นท์แต่ละประเภทที่คุณสนใจต้องทำใหม่ทุกเดือนหรือสามารถทำครั้งเดียวแล้วค่อยกลับมาทำใหม่หลังจากผ่านไปสัก 2 – 3 เดือน
  2. สภาพแวดล้อมและการใช้สารเคมี: หากคุณใช้ผลิตภัณฑ์หรือทำสิ่งที่ทำให้เส้นผมของคุณถูกทำลาย เช่น การทำสีผมหรือการใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อยครั้ง ควรทำทรีทเม้นท์บ่อยขึ้นเพื่อซ่อมแซมเส้นผมที่เสียหาย
  3. ประเภทของเส้นผม: ประเภทและสภาพของเส้นผมแต่ละคนมีความแตกต่างกัน หากเส้นผมของคุณได้รับความเสียหายมากหรือเป็นผมทำสีควรทำทรีทเม้นท์เป็นประจำเพื่อรักษาและเสริมสร้างสุขภาพของเส้นผม
  4. ความสะดวกในการดูแล: หากคุณไม่มีเวลาว่างเพียงพอที่จะทำทรีทเม้นท์บ่อยครั้ง ควรเลือกทรีทเม้นท์ที่สามารถคงความสวยงามของเส้นผมได้นานๆ หรือเลือกใช้ทรีทเม้นท์ที่ใช้ง่ายและมีผลลัพธ์ที่ดีในช่วงเวลาสั้นๆ

การดูแลหลังทำทรีทเม้นท์ผมเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ในการทำทรีทเม้นท์ที่ดีที่สุดและเพื่อรักษาสภาพเส้นผมให้คงความสวยงามได้นานขึ้น นี่คือขั้นตอนและคำแนะนำในการดูแลหลังทำทรีทเม้นท์ผม:

  • อย่าล้างผมทันที: หลังจากทำทรีทเม้นท์ผมควรหลีกเลี่ยงการล้างผมทันที เพื่อให้สารทรีทเม้นท์ซึมซับเข้าไปในเส้นผมอย่างเต็มที่
  • หลีกเลี่ยงสารเคมีและความร้อน: หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีกับเส้นผมหรือการใช้ความร้อนในการทำผม เช่น ทำสีผม อบไอน้ำ หรือไดร์ผม ซึ่งอาจทำให้ทรีทเม้นท์ที่อยู่ในเส้นผมได้รับความเสียหายได้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม: ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพเส้นผมของคุณ เช่น แชมพูและครีมนวดผมที่ไม่มีสารเคมีที่ทำให้เส้นผมได้รับความเสียหาย
  • ไม่ควรทำทรีทเม้นท์บ่อยเกินไป: การทำทรีทเม้นท์บ่อยเกินไป อาจทำให้เส้นผมเสียหายเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังความถี่ในการทำทรีทเม้นท์ผมแต่ละครั้งด้วย

การทำทรีทเม้นท์ผมที่ถูกต้องและเหมาะสมจะไม่ทำให้เส้นผมเสียหาย ในความเป็นจริงทรีทเม้นท์ผมมีประโยชน์ในการปรับปรุงสภาพเส้นผม ลดความเสียหาย และบำรุงเส้นผมให้มีความแข็งแรงและสุขภาพดีขึ้น