หมอนรองให้นม (Nursing Pillow) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้กระบวนการให้นมลูกนมเป็นไปได้สะดวกและสบายขึ้นสำหรับคุณแม่และทารก หมอนรองให้นมมักมีลักษณะรูปร่างพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อรองรับลำตัวของคุณแม่และทารกในขณะที่ให้นม ช่วยให้คุณแม่สามารถรองรับลำตัวขณะให้นมลูกนมได้อย่างสบายสะดวก มันช่วยลดความเมื่อยล้าของแขนและไหล่ขณะที่ให้นม ทั้งยังช่วยให้ทารกได้รับการรองรับที่เหมาะสมขณะกินนม อาจจะช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียอากาศหรือการซึมของทารกที่เป็นสาเหตุของปัญหาการกินนม

10 อันดับ หมอนรองให้นม ยี่ห้อไหนดี 2024

1

GLOWY หมอนรองให้นม ผ้า Cotton

2

ROYAL KIDZ รุ่น D0014

3

Dodolove หมอนรองให้นม ดูดูเลิฟ

4

Walee รุ่น Exclusive

5

Boppy Pillow หมอนรองให้นม

6

Mothery for mother baby

7

Fortae รุ่น NA016

8

Nanny รุ่น Classic

9

Synda Health & Care หมอนรองให้นม

10

Sunveno 3in1 หมอนรองให้นมเด็ก 0-3 ปี

หมอนรองให้นม ยี่ห้อดัง ยอดนิยม

D006-1-04
D0026-1-08
D0014-1-03
หมอนรองให้นม
หมอนคนท้อง
เบาะรองรถเข็น
หมอนรองให้นม
หมอนหัวทุย
หมอนหัวทุย
หมอนให้นม
หมอน+ผ้าคลุมให้นม
ผ้าคลุมให้นม
Extra pillow
Compact
Nursing pillow
หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นม
หมอนรองท้อง
หมอนรองเเขน

Cookiexu Official

หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นม
หมอนรองให้นม
หมอนรองครรภ์
หมอนรองหลัง

หมอนรองให้นม ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

วิธีการเลือก หมอนรองให้นม

การเลือกหมอนรองให้นมนั้นสำคัญเพราะหมอนรองที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีความสบายและรองรับรูปร่างของร่างกายในขณะที่คุณนอนหรือนั่งเลี้ยงลูกนมได้ดีขึ้น นี่คือขั้นตอนที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกหมอนรองให้นม:

  • ความสบาย: หมอนรองควรเป็นแบบที่ทำจากวัสดุที่อ่อนนุ่มและสบายต่อผิวหนังของคุณ คุณควรสัมผัสหมอนเพื่อตรวจสอบว่ามีความนุ่มนวลเพียงพอและไม่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายหรือระคายเคืองตอนนอนหรือนั่งเลี้ยงลูกนม
  • รูปร่าง: หมอนรองที่เหมาะสมควรมีรูปร่างที่รองรับส่วนหลังและคอของคุณในท่าที่ถูกต้อง คุณควรเลือกหมอนที่มีความสูงเหมาะสมเพื่อรับรูปร่างของคอและหลังของคุณ
  • วัสดุ: หมอนรองมักทำจากวัสดุต่าง ๆ เช่น ลาเท็กซ์, ลาเท็กซ์อม, ฟองน้ำเจล, หรือฟองลม คุณควรเลือกวัสดุที่เหมาะกับความชอบและความสบายของคุณ
  • การดูแลรักษา: คุณควรเลือกหมอนรองที่ง่ายต่อการดูแลรักษา เพื่อประหยัดเวลาและความพยายามในการทำความสะอาดและดูแลรักษา
  • ราคา: ราคาของหมอนรองสามารถแตกต่างกันไปมาก คุณควรตั้งงบประมาณและค้นหาหมอนที่มีราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของคุณ
  • รีวิวและความคิดเห็น: การอ่านรีวิวและความคิดเห็นจากผู้ใช้คนอื่นสามารถช่วยให้คุณได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสบการณ์ของคนอื่นในการใช้หมอนรองเฉพาะรุ่นที่คุณสนใจ
  • การปรับแต่ง: หมอนรองที่มีความสามารถในการปรับแต่งรูปร่างหรือความสูงให้ตรงกับความสบายของคุณเป็นไปได้ด้วย
  • การทดลอง: หากเป็นไปได้ คุณควรทดลองใช้หมอนรองก่อนซื้อเพื่อตรวจสอบว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่

การเลือกหมอนรองให้นมคือเรื่องบุคลิกภาพและขึ้นอยู่กับความสบายและความชอบของคุณ คุณควรใช้ขั้นตอนเหล่านี้เป็นแนวทางเพื่อช่วยให้คุณเลือกหมอนรองที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณและการใช้งานของนมของคุณในช่วงเวลาหลังคลอด

ประเภทของหมอนรองให้นม

  • หมอนรองเป็นลาเท็กซ์ (Latex Nursing Pillow): ทำจากวัสดุลาเท็กซ์ธรรมชาติที่ยืดหยุ่นและเส้นใยน้อย หมอนนี้สามารถปรับรูปร่างได้ง่ายและมีความระงับที่ดีสำหรับการรองรับแขนและลำตัวขณะให้นมลูกนม
  • หมอนรองเป็นฟองน้ำเจล (Gel Nursing Pillow): มีส่วนของฟองน้ำเจลในกลางที่ช่วยลดความร้อนและเสียงรบกวนในขณะที่ให้นม มันมีความเป็นนุ่มและสบายต่อผิวหนังของลูกนมและแม่
  • หมอนรองเป็นหนังสัตว์ (Animal Skin Nursing Pillow): ทำจากหนังสัตว์แบบที่ได้รับการกระบวนการและปรับแต่งให้เหมาะสม มีลักษณะที่เป็นเฉพาะและมีความแข็งแรงเหมาะสำหรับให้นมลูกนม
  • หมอนรองรูปร่างพิเศษ (Contoured Nursing Pillow): มีรูปร่างที่ออกแบบเพื่อรองรับลำตัวและคอของแม่ ช่วยให้ลูกนมได้รับการรองรับที่ดีและช่วยลดความกดที่ทรวงอกของแม่
  • หมอนรองที่เป็นหน้ารูป (Wedge Nursing Pillow): เป็นหมอนที่มีรูปเป็นก้อนเตียง มักถูกวางใต้ลำตัวของแม่เพื่อยกขาส่วนล่างขึ้นในขณะที่ให้นม ช่วยให้การให้นมง่ายขึ้นและลดความกดที่ลำตัว
  • หมอนรองให้นมแบบพกพา (Travel Nursing Pillow): มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาทำให้สะดวกต่อการพกพาและใช้งานนอกระบบ
  • หมอนรองรูปตัว U (U-Shaped Nursing Pillow): มีรูปร่างแบบ U และสามารถใช้ในหลายท่าต่าง ๆ เช่น ใช้เป็นรองรับขณะนอนหรือนั่งเลี้ยงลูกนม

คำถามที่พบบ่อย

ในตลาดหมอนรองให้นมในประเทศไทย มีหลายยี่ห้อที่มีคุณภาพดีและได้รับความนิยมจากแม่บ้านไทย แต่ความเหมาะสมของหมอนรองนั้นขึ้นอยู่กับความสบายและความต้องการของแม่บ้านแต่ละคน ยี่ห้อที่ดีก็มีหลายรายดังนี้:

  • Mum & Baby: ยี่ห้อนี้มีหมอนรองให้นมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับการให้นมลูกนม มีหลายรุ่นให้เลือกตามความต้องการและงบประมาณของคุณ
  • Pigeon: Pigeon มีหมอนรองให้นมที่ทำจากวัสดุที่นุ่มนวลและสบายต่อผิว มีความระงับที่ดีสำหรับการให้นม
  • Lansinoh: Lansinoh ทำหมอนรองให้นมที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการให้นม มีความสัมผัสอ่อนนุ่มและให้ความรองรับที่ดี
  • PurFlo: ยี่ห้อนี้มีหมอนรองให้นมที่ทำจากเนื้อหนังสัตว์แบบที่ได้รับการกระบวนการและปรับแต่งให้เหมาะสม มีลักษณะที่เป็นเฉพาะและมีความแข็งแรง
  • หมอนอิงจีน (Chinese Nursing Pillow): หมอนรองให้นมแบบนี้มีลักษณะเป็นคลื่นคลุ้งและเหมาะสำหรับให้นมลูกนม มีหลายยี่ห้อที่ผลิตและขายในตลาดไทย

ก่อนการซื้อหมอนรองให้นม ควรพิจารณาความสะดวกสบายและความเหมาะสมตามความต้องการของคุณ คุณอาจจะต้องทดลองใช้หรืออ่านรีวิวจากผู้ใช้คนอื่นเพื่อดูว่าแบบที่คุณสนใจเหมาะกับคุณหรือไม่ อย่าลืมพิจารณาราคาและงบประมาณของคุณด้วยเช่นกัน

การใช้หมอนรองให้นมเป็นเรื่องบุคลิกภาพและขึ้นอยู่กับความสะดวกสบายและความต้องการของแม่บ้านแต่ละคน หมอนรองให้นมไม่จำเป็นต้องมี แต่มันอาจช่วยให้กระบวนการให้นมลูกนมเป็นไปได้สะดวกและสบายขึ้นในบางกรณี ดังนี้:

  • สบายมากขึ้น: หมอนรองให้นมอาจช่วยลดความกดที่ลำตัวของแม่บ้านและลดความเหนื่อยที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการให้นมลูกนม แม่บ้านอาจจะนั่งหรือนอนในท่าที่สะดวกสบายและใช้หมอนรองให้นมเพื่อรองรับลูกนมในขณะที่ให้นมได้สะดวกมากขึ้น
  • ลดความเสี่ยงของทารก: การใช้หมอนรองให้นมอาจช่วยให้ทารกได้รับการรองรับที่เหมาะสมและให้นมได้ที่สูงพอในขณะที่กินนม นี้อาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการสูญเสียอากาศหรือการซึมของทารกที่เป็นสาเหตุของปัญหาการกินนม
  • ลดการกดที่ลำตัว: หมอนรองให้นมที่เหมาะสมอาจช่วยลดการกดที่ลำตัวและทรวงอกของแม่บ้านในระหว่างการให้นม นี้อาจช่วยลดความรู้สึกอักเสบและความเจ็บปวด
  • รองรับแขน: หมอนรองให้นมบางรุ่นมีรูปร่างที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแขนของแม่บ้านในขณะที่ให้นม นี้อาจช่วยลดความเมื่อยล้าของแขนและไหล่ขณะที่ให้นม
  • ป้องกันแพลนฉีดนม: หมอนรองให้นมบางรุ่นอาจช่วยป้องกันการแพลนฉีดนมขึ้นไปสู่ทรวงอกของทารก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการระคายเคืองและความไม่สะดวกในการให้นม

อย่างไรก็ตาม การใช้หมอนรองให้นมไม่จำเป็นต้องมี แม่บ้านสามารถให้นมลูกนมได้โดยใช้หมอนปกติหรือแม้กระทั่งโดยไม่ใช้หมอนเลย สำคัญที่สุดคือการให้นมด้วยความสะดวกสบายและสบายใจ แม่บ้านควรเลือกตามความสะดวกสบายและความต้องการของตนเองและทารกของคุณ

ขนาดของหมอนรองให้นมสามารถแตกต่างกันไปตามยี่ห้อและรุ่นของหมอน ขนาดที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความสบายและความต้องการของแม่บ้านแต่ละคน อย่างไรก็ตาม หมอนรองให้นมมักมีขนาดที่เหมาะกับระงับลำตัวและให้นมลูกนมได้อย่างสะดวก คุณสามารถพิจารณาขนาดดังนี้:

  • ขนาดมาตรฐาน: หมอนรองให้นมมาตรฐานมักมีขนาดประมาณ 20-24 นิ้ว (ประมาณ 50-60 เซนติเมตร) กว้าง และ 14-16 นิ้ว (ประมาณ 35-40 เซนติเมตร) ลึก ขนาดเหล่านี้มักเหมาะสำหรับความสูงและความสะดวกสบายของส่วนลำตัวและน่องของแม่บ้านในขณะที่ให้นมลูกนม
  • ขนาดปรับแต่ง: บางรุ่นของหมอนรองให้นมสามารถปรับแต่งขนาดได้ โดยคุณสามารถปรับความสูงหรือความกว้างของหมอนเพื่อให้เหมาะกับความสบายและต้องการของคุณ
  • ขนาดที่เล็กกว่า: ยี่ห้อบางรายอาจมีหมอนรองให้นมขนาดที่เล็กกว่าเพื่อความคล่องตัวและพกพาได้ง่าย เหมาะสำหรับแม่บ้านที่ต้องการความสะดวกสบายในการเลี้ยงลูกนมขณะออกนอกบ้าน

เพื่อความแน่ใจว่าคุณได้หมอนรองให้นมที่เหมาะสม คุณสามารถทดลองใช้หรือตรวจสอบขนาดที่ระบุในคู่มือผู้ใช้ของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ควรตั้งคำถามหรือสอบถามคำแนะนำจากแม่บ้านอื่น ๆ ที่เคยใช้หรือมีประสบการณ์ในการใช้หมอนรองให้นมด้วย

  • ตรวจสอบข้างนอก: เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบหมอนรองให้นมด้านนอกเพื่อตรวจสอบว่ามีคราบสกปรกหรือเส้นใยบนผ้าหรือไม่ ถ้ามีสกปรกหรือเส้นใยต้องรีบตรวจสอบและทำความสะอาดให้หมอนรองให้นมเสียก่อน
  • ถอดปลอกหมอนรอง: ถอดปลอกหมอนรองให้นมออก ในกรณีที่หมอนรองให้นมมีปลอกหมอนแยกจากหมอน ให้ทำการถอดปลอกหมอนรองออกจากหมอนเพื่อให้สามารถซักได้ง่ายขึ้น
  • ซักหมอนรอง: ดูแล่ความความกดที่ระแนงอกของทารกของคุณ หากปลอกหมอนรองให้นมสามารถซักในเครื่องซักผ้า คุณควรทำตามคำแนะนำการซักที่ระบุบนป้ายของผ้า ใช้น้ำยาซักผ้าที่เหมาะสมและไม่มีสารเคมีที่เสี่ยงต่อสุขภาพทารก
  • การซักด้วยมือ: หากปลอกหมอนรองให้นมไม่สามารถซักในเครื่องซักผ้าได้ คุณสามารถทำการซักด้วยมือได้ ล้างปลอกด้วยน้ำอุ่นและน้ำยาซักผ้าที่อ่อนนุ่ม ใช้แปรงนุ่มหรือผ้าม๊อบในการล้างคราบสกปรก จากนั้นนำไปแห้งในที่ร่มและไม่ใช้แสงแดดตรง
  • ตรวจสอบหมอนรองเท่าให้ได้: หลังจากการซักและแห้งแล้ว ตรวจสอบอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าหมอนรองให้นมไม่มีคราบสกปรกหรือเส้นใยที่ตกค้าง
  • บันทึกประจำการใช้งาน: หมอนรองให้นมมีอายุการใช้งาน คุณควรบันทึกวันที่เริ่มใช้และต้องหมายว่าคุณควรแลกเปลี่ยนหมอนรองให้นมใหม่อย่างสม่ำเสมอตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือหมอนรองให้นมมากขึ้นในกรณีที่เคยมีการรีดนมหรือเสียดทานตอนใช้