ดัมเบล (Dumbbell) เป็นอุปกรณ์ฝึกซ้อมทางกายภาพที่มีรูปร่างคล้ายกระบอกสองด้านที่ยกขึ้นและลงโดยใช้มือของผู้ใช้ เขามือของดัมเบลมีน้ำหนักที่สองข้างกันและมักเป็นเหล็กหรือวัสดุอื่นที่มีน้ำหนัก เป็นที่นิยมในการฝึกซ้อมทางกายภาพและออกกำลังกาย เพราะช่วยให้คุณเพิ่มความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

10 อันดับ ดัมเบล ยี่ห้อไหนดี 2024

1

XtivePRO Adjustable dumbbell

2

Softkiss Kettlebell Dumbbell

3

SPORTLAND SPL Neoprene Dumbbell

4

GSports รุ่น AD62521A x 2

5

BG Dumbbell รุ่น Q305

6

Adidas ดัมเบล - 1 กก. (คู่)

7

Core-Fitness Dumbbell P5938

8

KING ดัมเบล รุ่น Neoprene

9

READTE PASTEL DUMBBELL

10

DOBETTERS โครเมี่ยม

ดัมเบล ยี่ห้อดัง ยอดนิยม

Adjustable barbell
Hex Dumbbell 2in1
PVC Hex Dumbbell
Kettlebell
ม้ายกดัมเบล
ถุงมือยกดัมเบล
Dumbbell Plate Set
SPL Cement Dumbbell
SPL Neoprene Dumbbell
Kettlebell รุ่น KB04
รุ่น DB8-B x 2
รุ่น AD62522A x 2
รุ่น Q304 1KG
รุ่น Q301 15 Kg
รุ่น Q310
Dumbbells - 3Kg Pair
Dumbbells - 4Kg Pair
Push Up Bars
P5938 15-25 KG
Weight Rubber Plate
Multi-Function Bench
Neoprene 1,3 KG เหลี่ยม
Neoprene 2 KG Yellow
Neoprene 1,3 KG กลม
SOFT KETTLEBELL
ADJUSTABLE DUMBBELL
Beat Smart Dumbbell
ดัมเบลปรับน้ำหนักได้
ดัมเบลพลาสติก
แบบพลาสติกปรับน้ำหนัก

ดัมเบล ยอดนิยม ขายดี - ประจำเดือน

วิธีการเลือก ดัมเบล

การเลือกดัมเบล (dumbbell) หรือดัมเบลที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของคุณ ระดับฝึกหรือประสบการณ์ทางกายภาพ และงบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้ นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเลือกดัมเบล

  • กำหนดวัตถุประสงค์: ก่อนที่คุณจะเลือกดัมเบล คุณควรกำหนดวัตถุประสงค์ของการออกกำลังกายของคุณ ว่าคุณต้องการใช้ดัมเบลเพื่อการยกน้ำหนักเพื่อกล้ามเนื้อหรือการวอร์มอัพร่างกาย เพื่อการวิตามินและการฟิตเนส หรือเพื่อการฝึกซ้อมแบบทั่วไป
  • คำนึงถึงระดับความเร่งความหนัก: หลังจากคุณกำหนดวัตถุประสงค์ คุณควรคำนึงถึงระดับความเร่งความหนักที่คุณต้องการใช้ ดัมเบลมีน้ำหนักต่าง ๆ ตั้งแต่ไม่กี่ ปอนด์ (หรือ กิโลกรัม) ถึงหลายร้อยปอนด์ (หรือ กิโลกรัม) ดัมเบลเล็กมีน้ำหนักเบาและเหมาะสำหรับการฝึกซ้อมทั่วไป ส่วนดัมเบลที่หนักมากเหมาะสำหรับการยกน้ำหนักเพื่อการกล้ามเนื้อ
  • พิจารณางบประมาณ: หลังจากคุณกำหนดระดับความเร่งความหนัก คุณควรพิจารณางบประมาณที่คุณสามารถใช้ได้ ดัมเบลมีราคาแตกต่างกันตามน้ำหนักและวัสดุที่ทำจาก คุณสามารถเลือกดัมเบลจากเหลายยี่ห้อและราคาต่าง ๆ
  • คำนึงถึงการจัดเก็บและการใช้งาน: คุณควรคำนึงถึงพื้นที่ที่คุณสามารถจัดเก็บดัมเบลและวิธีการใช้งานที่สะดวกสบายสำหรับคุณ เช่น คุณสามารถใช้ดัมเบลแบบคู่หรือดัมเบลเดี่ยว ที่มีระบบปรับน้ำหนักหรือไม่
  • ทดลองก่อนซื้อ: สุดท้าย คุณควรทดลองกายกับดัมเบลที่คุณสนใจ หรืออ่านรีวิวและคำแนะนำเกี่ยวกับดัมเบลที่คุณสนใจ ก่อนที่คุณจะซื้อเพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมสำหรับคุณและตรงกับวัตถุประสงค์ของคุณ

นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการเลือกดัมเบล ขอให้คุณค้นหาดัมเบลที่เหมาะสมสำหรับการออกกำลังกายของคุณและประสบความสำเร็จในการฝึกซ้อมของคุณ!

ประเภทของดัมเบล

มีหลายประเภทของดัมเบลที่คุณสามารถเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์และความต้องการของคุณ. นี่คือบางประเภทที่พบบ่อย

  • ดัมเบลสามเหลี่ยม (Hex Dumbbells): ดัมเบลสามเหลี่ยมมีดีไซน์ในรูปร่างของลิ่มสามเหลี่ยม ที่ช่วยให้คุณมีการจับที่มั่นมากขึ้น และทำให้ง่ายต่อการใช้งานในการยกน้ำหนัก พวกนี้มักมีส่วนของกังหันลดและทำให้ง่ายต่อการวางไว้บนพื้น
  • ดัมเบลแบบชุบ (Coated Dumbbells): ดัมเบลแบบนี้มีพื้นที่ชุบซิลิโคนหรือยางเพื่อป้องกันการเปื่อนหรือร้านดัมเบลเมื่อน้ำหนักชิ้นนี้ตกหรือสูงสามารถลดเสียงที่กระทำตอนการใช้งาน
  • ดัมเบลปรับน้ำหนัก (Adjustable Dumbbells): ดัมเบลแบบนี้ออกแบบมาให้คุณสามารถปรับน้ำหนักได้ตามความต้องการ ทำให้คุณสามารถใช้หนึ่งคู่ของดัมเบลในการฝึกซ้อมต่าง ๆ ที่ต้องการน้ำหนักต่าง ๆ
  • ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักไม่ได้ (Fixed Weight Dumbbells): ดัมเบลแบบนี้มีน้ำหนักคงที่และไม่สามารถปรับได้ มีขนาดต่าง ๆ ตามน้ำหนักแต่ละคู่
  • ดัมเบลแบบลูกตุ้ม (Kettlebell): กิโลกรัมหรือดัมเบลแบบลูกหินเป็นหนึ่งในวิธีการยกน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมและมีดีไซน์พิเศษ แบบนี้มักใช้ในการฝึกซ้อมแบบแวดล้อมและขึ้นแรง
  • บาร์เบลล์ที่ไม่ต้องใส่น้ำหนัก (Fixed Barbells): ดัมเบลแบบนี้เชื่อมโยงกับคานและไม่สามารถปรับน้ำหนักได้ มักใช้ในการฝึกซ้อมแบบเชิงครูสส์

การเลือกดัมเบลที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสไตล์การออกกำลังกายของคุณ นอกจากนี้คุณควรคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งานและงบประมาณของคุณเมื่อทำการเลือกดัมเบล ตลอดนี้หากคุณไปยูเรนะหรือร้านอุปกรณ์ฝึกอาชีพ คุณสามารถทดลองใช้ดัมเบลที่คุณสนใจก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมสำหรับคุณ

คำถามที่พบบ่อย

การเล่นดัมเบลเหมาะสำหรับคนทุกระดับ ไมว่าคุณเป็นมือใหม่ในการออกกำลังกายหรือมีประสบการณ์มากแล้ว ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ฝึกอาชีพที่หลากหลายและที่น่าสนุกในการใช้งาน. นี่คือวิธีเริ่มต้นเล่นดัมเบลจากระดับต่าง ๆ

  • มือใหม่หรือผู้ที่มีระดับความเร่งความหนักต่ำ: ถ้าคุณเป็นมือใหม่ในการออกกำลังกายหรือมีระดับความเร่งความหนักต่ำ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยดัมเบลที่มีน้ำหนักเบา ๆ หรือใช้ดัมเบลแบบปรับน้ำหนักเพื่อปรับน้ำหนักในการฝึกซ้อมของคุณ. เริ่มต้นด้วยฝึกซ้อมพื้นฐานเช่น ประกบดัมเบลหรือยกดัมเบลแบบกล้ามเนื้อแขนและไหล่
  • ระดับกลาง: หากคุณมีประสบการณ์ในการออกกำลังกายและต้องการที่จะเพิ่มความเร่งความหนัก คุณสามารถเลือกดัมเบลที่มีน้ำหนักสูงขึ้น. ลองปฏิบัติฝึกซ้อมที่มีความหลากหลาย เช่น ยกดัมเบลและทำท่าทางต่าง ๆ เพื่อฝึกซ้อมกล้ามเนื้อต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ระดับสูง: สำหรับผู้ที่มีระดับความเร่งความหนักสูง ดัมเบลยังคงเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการฝึกซ้อมและเพิ่มความแข็งแรง. คุณสามารถเพิ่มความเร่งความหนักของดัมเบลหรือใช้ดัมเบลที่มีความหนักสูงมากขึ้น. ลองฝึกซ้อมที่มีความยากและความแข็งแรง เช่น ยกดัมเบลใหญ่และทำคลื่นไหล่หรือสควอต

น้ำหนักของดัมเบลมีความหนักต่าง ๆ และสามารถเลือกใช้ตามวัตถุประสงค์และระดับความเร่งความหนักของคุณ. น้ำหนักของดัมเบลสามารถระบุในหน่วยปอนด์ (pounds) หรือ กิโลกรัม (kilograms) โดยทั่วไปมีหลายช่วงน้ำหนักที่คุณสามารถเลือกใช้

  • น้ำหนักเบา (Lightweight): น้ำหนักน้อยกว่า 10 ปอนด์ (ประมาณ 4.5 กิโลกรัม) เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับความเร่งความหนักต่ำหรือมือใหม่ในการออกกำลังกาย และสำหรับฝึกซ้อมระดับขั้นพื้นฐาน เช่น กายภาพบำบัดหรือฝึกยกน้ำหนักเบา
  • น้ำหนักกลาง (Medium Weight): น้ำหนักระหว่าง 10 ปอนด์ ถึง 25 ปอนด์ (ประมาณ 4.5 ถึง 11.3 กิโลกรัม) เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับความเร่งความหนักระดับกลาง และใช้ในการฝึกซ้อมทั่วไปเช่น ยกดัมเบลเพื่อกล้ามเนื้อแขนหรือไหล่.
  • น้ำหนักหนัก (Heavy Weight): น้ำหนักระหว่าง 25 ปอนด์ ถึง 50 ปอนด์ (ประมาณ 11.3 ถึง 22.7 กิโลกรัม) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและขนาดของกล้ามเนื้อ และสำหรับฝึกซ้อมที่ต้องการน้ำหนักมาก
  • น้ำหนักหนักมาก (Very Heavy Weight): น้ำหนักมากกว่า 50 ปอนด์ (มากกว่า 22.7 กิโลกรัม) เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับความเร่งความหนักสูงและต้องการฝึกซ้อมที่มีความแข็งแรงมาก หรือสำหรับฝึกซ้อมการยกน้ำหนักที่มาก.
  • ดัมเบลที่ปรับน้ำหนัก (Adjustable Dumbbells): แบบนี้คุณสามารถปรับน้ำหนักตามความต้องการของคุณโดยใช้ระบบปรับน้ำหนัก ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลายในการฝึกซ้อมและไม่ต้องซื้อดัมเบลหลายชุด

การเลือกน้ำหนักดัมเบลขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และระดับความเร่งความหนักของคุณ คุณสามารถเลือกน้ำหนักที่ตรงกับความต้องการของคุณและช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการฝึกซ้อมของคุณ

ดัมเบลเหมาะสำหรับหลายคนและสามารถใช้ได้สำหรับกลุ่มคนที่ต่าง ๆ ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ฝึกอาชีพที่หลากหลายและมีประโยชน์สำหรับผู้ที่มีวัตถุประสงค์การออกกำลังกายต่าง ๆ และระดับความเร่งความหนักต่าง ๆ นี่คือบางกลุ่มที่ดัมเบลเหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่ต้องการความแข็งแรงและสมบูรณ์: ดัมเบลเป็นเครื่องมือที่ดีในการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความสมบูรณ์ของร่างกาย สามารถช่วยพัฒนากล้ามเนื้อทั่วไปของร่างกายได้
  • นักกีฬา: นักกีฬาที่ต้องการฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกีฬาที่พวกเขาเล่น ดัมเบลเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการฝึกซ้อมกล้ามเนื้อและสอนเทคนิคกีฬา.
  • ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือลดไขมัน: การใช้ดัมเบลในการฝึกซ้อมทางกายภาพสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและลดไขมันในร่างกาย
  • ผู้ที่มีระดับความเร่งความหนักต่าง ๆ: ดัมเบลมีน้ำหนักต่าง ๆ ที่คุณสามารถเลือกใช้ สามารถใช้ในการฝึกซ้อมตามระดับความเร่งความหนักของคุณ หนักหรือเบาตามความต้องการ
  • ผู้ที่ต้องการฝึกซ้อมที่บ้าบาท: ดัมเบลเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฝึกซ้อมที่บ้าบาทและไม่ต้องการไปยกน้ำหนักที่ต้องการน้ำหนักใหญ่
  • ผู้ที่ต้องการฝึกซ้อมที่บ้าน: ดัมเบลเป็นอุปกรณ์ฝึกอาชีพที่เหมาะสำหรับการฝึกซ้อมที่บ้าบาทในบ้าน คุณสามารถฝึกซ้อมที่สบายในบ้านของคุณโดยไม่ต้องไปยกน้ำหนัก
  • ผู้ที่ต้องการความสงบในการฝึกซ้อม: ดัมเบลแบบพร้อมชุบหรือลูกหินช่วยลดเสียงและทำให้ฝึกซ้อมเงียบและไม่รบกวนคนอื่น ๆ ในบ้านหรือห้องฝึกซ้อม
  • ผู้ที่ต้องการความหลากหลายในการฝึกซ้อม: ดัมเบลมีความหนักต่าง ๆ และสามารถใช้ในการฝึกซ้อมหลายแบบ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการฝึกซ้อม
  • ฝึกซ้อมทางกายภาพบำบัด: ถ้าคุณใช้ดัมเบลเป็นการฝึกซ้อมทางกายภาพบำบัดหรือการป้องกันบาดเจ็บ คุณสามารถเริ่มต้นด้วย 10-15 นาทีต่อวัน หรือตามคำแนะนำจากผู้ให้บริการทางการแพทย์หรือกายภาพบำบัด. ควรเน้นฝึกซ้อมที่ช่วยแขน ไหล่ และลำตัว
  • ฝึกซ้อมและกายภาพบำบัดสำหรับสุขภาพทั่วไป: ถ้าคุณต้องการฝึกซ้อมและรักษาสุขภาพทั่วไป คุณสามารถใช้ดัมเบลเป็นส่วนหนึ่งของฝึกซ้อมประจำวัน ฝึกซ้อมกล้ามเนื้อแขน ไหล่ ลำตัว และขา ในระยะเวลาประมาณ 30-60 นาทีต่อวัน 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ฝึกซ้อมเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและกล้ามเนื้อ: หากคุณต้องการเพิ่มความแข็งแรงและขนาดของกล้ามเนื้อ คุณสามารถฝึกซ้อมด้วยดัมเบล 3-6 ครั้งต่อสัปดาห์ แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
  • ฝึกซ้อมสำหรับกีฬาหรือการแข่งขัน: นักกีฬาหรือนักการแข่งขันอาจต้องฝึกซ้อมด้วยดัมเบลตามระดับความเร่งความหนักและแผนการฝึกซ้อมที่เฉพาะเจาะจง การฝึกซ้อมทางกายภาพอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการปรับปรุงทักษะและประสิทธิภาพในกีฬาหรือการแข่งขัน
  • การฝึกซ้อมการยกน้ำหนักทางกายภาพหรือการแข่งขันตามแผนการฝึกซ้อมหรือโปรแกรม: นอกจากการฝึกซ้อมด้วยดัมเบล ควรปฏิบัติตามแผนการฝึกซ้อมหรือโปรแกรมที่กำหนดโดยครูสอนหรือโค้ชทางกายภาพ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ คำแนะนำเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการออกกำลังกายหรือกายภาพบำบัดเพื่อให้ได้ข้อคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับระดับความเร่งความหนักและเวลาฝึกซ้อมที่เหมาะสมสำหรับคุณ